คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ราช แถลงความสำเร็จในการผ่าตัดปลูกถ่ายลำไส้และอวัยวะในช่องท้องสำเร็จเป็นรายแรกในประเทศไทย รออวัยวะที่เหมาะสมนานถึง 2 ปี จากผู้บริจาค ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นผู้ป่วยสมองตาย และยังต้อมีหมู่เลือดเดียวกับผู้ป่วยเพื่อง่ายแก่การรับบริจาค
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมด้วย นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ผอ.รพ.ศิริราช, นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษรรอง ผอ.รพ.ศิริราช แถลงความสำเร็จในการผ่าตัดปลูกถ่ายลำไส้และอวัยวะในช่องท้องสำเร็จเป็นรายแรกในประเทศไทย ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งในการเปลี่ยนอวัยวะที่ยังไม่เคยทำมาก่อนในประเทศไทย ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่ายเลยวันนี้ศิริราชจะมานำเสนอให้เห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพไม่ด้อยกว่าที่อื่น และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยด้วย โรงพยาบาลศิริราชได้รับคนไข้ที่ป่วยและมีประวัติรับการรักษาและผ่าตัดเนื้องอกในลำไส้ จากนั้นเกิดภาวะเส้นเลือดดำใหญ่ที่หล่อเลี้ยงอวัยวะในช่องท้องอุดตัน ทำให้อวัยวะหลายอย่างในช่องท้องขาดเลือด ส่งต่อระบบการทำงานในร่างกาย จึงต้องมีการผ่าตัดกระเพาะ, ลำไส้เล็ก, ตับ และตับอ่อนออก เพื่อรอการปลูกถ่ายอวัยวะโดยใช้เวลาพักฟื้นรออวัยวะนานถึง 2 ปี ไม่สามารถรับประทานอาหารและขับถ่ายเองได้เหมือนคนปกติ เพราะต้องรออวัยวะที่เหมาะสมจากผู้บริจาค ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นผู้ป่วยสมองตาย ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคเรื้อรัง หรือประสบอุบัติเหตุ และยังต้องมีหมู่เลือดเดียวกับผู้ป่วยเพื่อง่ายแก่การรับบริจาค
ด้าน นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า คนไข้รายนี้มีเนื้องอกบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น หลังผ่าตัดที่โรงพยาบาลแรกพบว่าคนไข้มีภาวะเส้นเลือดดำลำไส้อุดตัน ทำให้ลำไส้ขาดเลือดเน่าตาย ศัลยแพทย์ต้องผ่าตัดส่วนที่เสียออกทำให้คนไข้เหลือเพียงลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย แพทย์ต้องให้สารอาหารผ่านเส้นเลือดดำ ทำให้คนไข้อยู่รอดมาได้ และปลายปี 2561 ทีมแพทย์ศิริราชจึงขออนุญาตกับโรงพยาบาลเจ้าของไข้เพื่อหารือกับกรณีดังกล่าวก่อนจะมีความเห็นในทางเดียวที่จะให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้ คือการปลูกถ่ายลำไส้ ผู้ป่วยจึงย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชในปี 2562
สำหรับอวัยวะที่ต้องการรับบริจาคครั้งนี้มี 4 อวัยวะ ได้แก่ กระเพาะ ตับ ตับอ่อน และลำไส้เล็ก จากผู้บริจาคสมองตาย และนำมาปลูกถ่ายทันที เนื่องจากลำไส้เปราะบางทนต่อการขาดเลือดนานไม่ได้ มีระยะเวลาเพียง 4-6 ชม. เท่ากับหัวใจ และการผ่าตัดใช้เวลา 7 ชม. หลังจากนั้นคนไข้ต้องรีบการฟื้นฟูร่างกายอีก 1 ปี จนสามารถทานอาหารและขับถ่ายเองได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องรับประทานยากดภูมิตลอดชีวิต และต้องมีการตรวจเช็กร่างกาย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษา เป็นค่ายา ค่าอุปกรณ์รวม 1.8 ล้านบาท ด้วยใช้ทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากการผ่าตัดต้องแข่งกับเวลา ทั้งนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายไม่เป็นอุปสรรคกับการรักษา เนื่องจากมีกองทุนเปลี่ยนถ่ายอวัยวะศิริราช และยังใช้ร่วมกับสิทธิรักษา ประกันสังคม สวัสดิการราชการ และหลักประกันสุขภาพ
