"อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์" โรงแรมแรกในกระบี่คว้ามาตรฐาน SHA สำหรับที่พัก สปาและการนำเที่ยว หลังลงทุนใช้นวัตกรรมสร้างความมั่นใจสุขอนามัยรองรับนักท่องเที่ยวตามมาตรฐานวิถีใหม่
ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้การสนับสนุนทางจังหวัดกระบี่ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบมั่นใจ สะอาด และปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่พักในจังหวัดให้ได้รับมอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว (SHA)
มาตรฐานดังกล่าวเน้นในเรื่องคุณภาพความสะอาดตามหลักสากล ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นผู้ประกอบการรายแรกของกระบี่ที่ได้รับมาตรฐาน SHA ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ โรงแรม/ที่พัก (Resort) สุขภาพและความงาม (Spa) และบริษัทนำเที่ยว (Travel & Tour) โดยได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. ในการพัฒนานวัตกรรมด้านโรงแรมสีเขียว (Green Hotel) ที่เป็นเทคโนโลยีสะอาดและประหยัดพลังงาน ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้รีสอร์ทได้รับได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
นางกุสุมา กิ่งเล็ก กรรมการผู้จัดการ อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา กล่าวว่า ช่วงวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) ถือเป็นโอกาสที่ดีของทางรีสอร์ทเนื่องจากทางผู้บริหารและพนักงาน วางแผนมาโดยตลอดเรื่องการเตรียมการหลังจากจบสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จนเป็นที่มาในเรื่องการปรับการบริการรูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้น ก่อนเกิดคำว่านิวนอร์มอล (New Normal) โดยการวางแผนในส่วนต่างๆ เช่น บริการเช็คอิน การจองอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัย โดยก่อนลูกค้าเช็คอินทางรีสอร์ทจะต้องส่งแบบฟอร์มที่เป็นเช็คอินล่วงหน้าให้ลูกค้า เพื่อกรอกรายละเอียด 14 วันล่วงหน้าก่อนเดินทางมาถึง เป็นการคัดกรองเบื้องต้น ในส่วนของรูปแบบโรงแรม
"หากกลุ่มลูกค้ามาจากกลุ่มเสี่ยง เช่น เดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จะมีการแยกโซนตึกห้องพัก เพื่อให้สามารถจัดการในกรณีที่เกิดปัญหาได้ว่า ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นใครและพักกับลูกค้าท่านใดบ้าง ซึ่งเมื่อเราวางแผนการให้บริการไว้ก่อน พอเกิดมาตรฐาน SHA ออกมา จึงเป็นข้อดีสำหรับรีสอร์ทในการปรับใช้ ทำให้เป็นรีสอร์ทแห่งแรกที่ได้มาตรฐาน SHA และเป็นสปาที่แรกในจังหวัดกระบี่ที่ได้มาตรฐาน SHA" นางกุสุมากล่าว
นางกุสุมาอธิบายต่อว่าหัวใจสำคัญของมาตรฐาน SHA คือ การรักษาความสะอาดและการเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัสผิวสัมผัสต่างๆ ซึ่งทางรีสอร์ทมีการจัดบริเวณทางเข้าให้มีการวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนที่จะเข้า check in ซึ่งรูปแบบที่วางแผนไว้จะมีความคล้ายกับมาตรฐาน SHA อยู่แล้ว คือมีการตรวจอุณหภูมิ มีการเหยียบพื้นเพื่อให้รองเท้าติดแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรค บริเวณล็อบบี้จะมีการเว้นระยะห่าง 1 เมตร ไม่ว่าจะเป็นจุด check in หรือจุดต่างๆ หลังจากลูกค้าเข้ามา check in เพื่อให้ใช้เวลาอยู่ในจุดส่วนรวมน้อยที่สุด
"เนื่องจากทางรีสอร์ทได้ข้อมูลลูกค้ามาก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นเมื่อลูกค้ามาถึง แค่ยืนยันตัวตนจากนั้นจะสามารถส่งลูกค้าเข้าที่พักได้ทันที ในส่วนของการส่งลูกค้าเข้าที่พักจะมีพนักงานที่ต้องสวมใส่เฟซชิลด์ หน้ากากอนามัย และสวมถุงมือในส่วนที่สัมผัสกับสิ่งต่างๆ อีกส่วนหนึ่งที่นำมาปรับมาใช้ คือ ขั้นตอนการชำระเงิน ทางรีสอร์ทใช้เป็น QR code หรือ Mobile Banking ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด สำหรับลูกค้าบางกลุ่มที่ยังชำระด้วยเงินสด ทางรีสอร์ทจะเตรียมถาดรองเพื่อไม่ให้เกิดการสัมผัสแบบมือต่อมือ"
ภายหลังได้รับมาตรฐาน SHA นางกุสุมาพบว่า ได้ผลตอบรับทางการตลาดดีมาก ด้วยเหตุผลว่ารีสอร์ทมีพร้อมก่อนและเป็นที่แรก ทำให้เกิดแบบอย่างหรือเป็นต้นแบบให้หลายๆ ที่ ซึ่งรีสอร์ทเองมีความยินดีที่จะเปิดให้ผู้ประกอบการหรือโรงแรมอื่นๆ เข้ามาศึกษาดูงานตั้งแต่ต้นเพื่อให้กลับไปใช้งานได้จริง ในส่วนของการตรวจสอบสำหรับที่รีสอร์ทถือว่ามีพอสมควร เนื่องจากเป็นโรงแรมแรก ทุกหน่วยงานจะมีการเข้ามาตรวจสอบว่า New Normal จริงๆ คืออะไร ทำกันแบบไหน ทั้งผู้ใหญ่ในจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือฝั่งสาธารณสุขเองมีเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน
“สวทช. เป็นศูนย์รวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งข้อดีของการรวมกันระหว่างการท่องเที่ยวและวิทยาศาสตร์มีแน่นอน เพราะว่าการบริการแบบนิวนอร์ทอลจะต้องมีอุปกรณ์หรือสิ่งใหม่ที่จะต้องนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์ เช่น นวัตกรรมใหม่ที่เป็นตัวพื้นเหยียบ (Step Safety) เพราะคือเรื่องใหม่ของทุกคน ส่วนในเรื่องอื่นๆ เช่น นวัตกรรมความร้อนจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการประหยัดพลังงานที่ได้รับจากการจับคู่นวัตกรรมจาก สวทช. นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้รีสอร์ทได้รับมาตรฐาน SHA เพราะว่ามาตรฐาน SHA จะเป็นเรื่องของการปรับทิศทางเครื่องปรับอากาศหรือการปรับความร้อนของจุดต่างๆ เพื่อการหมุนเวียน ในกรณีสมมติว่ามีเชื้ออยู่ในห้อง เชื้อจะสามารถเข้าและออกเพื่อผ่านไปยังพื้นที่โล่งได้ ซึ่งข้อกำหนดของ SHA จะสอดคล้องพอสมควรกับการใช้นวัตกรรมหรือการใช้สิ่งที่มีอยู่เพียงแค่ต้องปรับใช้หรือเพิ่มเติมบางอย่างเพื่อความเข้มข้นของการดูแลในเรื่องความปลอดภัย” นางกุสุมากล่าว
ด้าน นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สวทช. กล่าวเสริมว่า ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สวทช. ให้การสนับสนุนอ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน จ.กระบี่ ในการจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว หรือ SHA โดยที่ผ่านมา สวทช. มีการให้คำแนะนำ ปรึกษา และเชื่อมโยงพันธมิตรร่วมกันกับผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญคือ การจับคู่นวัตกรรม (Innovation Matching) ระหว่างเจ้าของนวัตกรรม กับ ผู้ใช้งานจริง คือทางรีสอร์ทเอง ด้วยการนำนวัตกรรมประหยัดพลังงานในระบบทำน้ำร้อนและระบบปรับอากาศ ไปใช้งานจริงในโรงแรม ทำให้เกิดการนำนวัตกรรมไปใช้งานจริง พร้อมยังส่งเสริมให้โรงแรมประกอบธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย เป็นการส่งเสริมทั้งในอุตสาหกรรมด้านพลังงานและการท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration) หรือ SHA เป็นการนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจ ปลอดภัยและสะอาดแก่นักท่องเที่ยว