xs
xsm
sm
md
lg

"หนองบัวลำภูโมเดล" ขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อม-การเกษตรด้วยงานวิจัย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วช.ร่วมขับเคลื่อน "หนองบัวลำภูโมเดล" ด้านสิ่งแวดล้อมและภาคการเกษตรด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม

ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ แถลงผลการดำเนินงานจากโครงการวิจัยท้าทายไทย ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาสารเคมีทางการเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ณ จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 20 ก.พ.63 ร่วมกับนายวรรณพล ต่อพงษ์ ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู และ ศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล ผู้บริหารจัดการโครงการวิจัย (Director) พร้อมมอบเตาเผาถ่านไบโอชาร์สำหรับการขยายผลในพื้นที่ 6 อำเภอของจังหนองบัวลำภูเพื่อใช้ในการลดสารเคมีในน้ำอุปโภคบริโภค

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อร่วมการขับเคลื่อน “หนองบัวลำภู Model” เป็นการร่วมแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในการลดการใช้สารเคมีภาคการเกษตร และการลดผลกระทบของสารเคมีที่มีผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์จังหวัดหนองบัวลำภู ที่มุ่งเน้น “การลดการใช้สารเคมีภาคการเกษตร” ทั้งนี้การขับเคลื่อน “หนองบัวลำภู Model” โดยการวิจัยและนวัตกรรม ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนองค์ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้อง

ดังนั้น กลไกการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กับจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ใช้โครงการวิจัยขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายชัดเจนภายใต้ “โครงการวิจัยท้าทายไทย” เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและตามระเบียบวาระแห่งชาติเรื่อง “การลดการใช้ งานและการจัดการสารเคมีปราบศัตรูพืชในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู” ที่วช.สนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชลงร้อยละ 40 จากปริมาณการใช้สารเคมีทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูภายใน 3 ปี โดยมีการบูรณาการความร่วมมือของนักวิจัย หน่วยงานในจังหวัดหนองบัวลำภู และชุมชน ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา เกิดผลสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการนำผลการวิจัยไปใช้ในพื้นที่ โดยสามารถเพิ่มพื้นที่เกษตรปลอดสารเคมีเพิ่มขึ้น 57.86% หรือ 1.57 เท่า และสามารถลดการใช้สารเคมีลงร้อยละ 42 ภายในระยะเวลา 1 ปี

ทั้งนี้โครงการวิจัยท้าทายไทยเป็นทุนวิจัยขนาดใหญ่ (Block grant) มีการบริหารจัดการ ติดตามและประเมินผลที่มุ่งผลสำเร็จในเชิงผลลัพธ์และผลกระทบ วช.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ให้ขยายผล และขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจาก โครงการ “การลดการใช้งานและการจัดการสารเคมีปราบศัตรูพืชในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู” จะสามารถขยายผลสู่วงกว้างเพื่อให้เกิดการลดการใช้สารเคมีควบคู่กับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้ต่อไป






















กำลังโหลดความคิดเห็น