“สยาม” ไม่เห็นด้วยแก้กฎหมายกำหนดสเปค “กสทช.” ต้องมีตำแหน่งสูง ชี้ไม่ตอบโจทย์การทำงาน ปิดกั้นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้-ประสบการณ์
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกมธ.ดีอีเอส กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ. กสทช. ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยประเด็นสำคัญที่มีเสนอแก้ไขในคือเรื่องคณะกรรมการสรรหา และเรื่องของคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ เช่น ที่บอกว่าต้องเคยรับราชการไม่ต่ำกว่าตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษา รองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการพระธรรมนูญรองหัวหน้าศาลทหารกลาง หรือรองอธิบดีอัยการ หรือมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือตำรวจยศพลตรีขึ้นไป หรือดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป หรือเคยเป็นผู้บริหารตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการผู้จัดการในบริษัทมหาชนที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
นายสยาม กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยในการกำหนดคุณสมบัติตามที่ร่างเสนอแก้ไขมาโดยยึดตำแหน่งสูงๆ เพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้วเรื่องคุณสมบัติควรที่จะเปิดกว้างกว่านี้ ควรที่จะพิจารณาในเรื่องความรู้ ประสบการณ์ จะช่วยงาน กสทช. โดยเฉพาะการเข้ามาทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน ไม่ควรมองข้ามคนรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วม ได้แต่ร่างที่เสนอแก้ไขมานี้ อาจจะทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาไม่ได้ แน่นอนว่าหลังจากพิจารณาในวาระแรกเสร็จแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งตนเองก็หวังว่าจะได้มีส่วนร่วมในการเข้าไปเสนอความคิดเห็นในกรรมาธิการ ซึ่งนอกจากเรื่องคุณสมบัติที่มีการเสนอแก้ไขแล้ว ส่วนตัวตนเห็นว่าในพ.ร.บ. กสทช. ยังมีประเด็นที่ควรได้รับการแก้ไขเพื่อให้มีความทันสมัยและเกิดประโยชน์สูงสุดคือเรื่องการประมูลคลื่นความถี่ ที่ไม่ควรประมูลเพื่อเอาชนะด้านราคาอย่างเดียว คือให้ได้ราคาสูงๆ ในหลักการสากลไม่ได้เป็นอย่างนี้แล้ว เนื่องจากผู้ให้บริการจะมีต้นทุนสูง ก็ส่งผลกระทบต่อการลงทุน และผู้ใช้บริการอาจใช้ในราคาที่สูงขึ้น ดังนั้นการประมูลจะมีการคิดใหม่ ทำใหม่ เช่นอาจเป็นการจ่ายขั้นต่ำ หรือลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน ซึ่งผุ้เกี่ยวข้องจะต้องมาช่วยกันคิดต่อไป
“คุณสมบัติที่ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอแก้ไขมาที่กำหนดตำแหน่งต้องเคยเป็น รองอธิบดี เป็นรองศาสตราจารย์ มียศพลตรี แล้วถ้าคนไม่มีตำแหน่งเหล่านี้จะดูอย่างไร ดังนั้นต้องมีการพิจารณาเรื่องประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน อย่างต่ำ 15 ปี อย่างนี้เป็นต้น ก็จะได้ทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ ต้องเด่นชัดในเรื่องเนื้องานมากดูเฉพาะตำแหน่งสูงๆเท่านั้น” นายสยาม กล่าว.
