xs
xsm
sm
md
lg

1-8 กุมภาพันธ์ เหล่าพรานดาราเริ่มต้นออกล่าทางช้างเผือก

เผยแพร่:   โดย: ศุภฤกษ์ คฤหานนท์


ภาพถ่ายทางช้างเผือกช่วงรุ่งเช้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ (ภาพโดย : คุณวชิระ โธมัส / Camera : Nikon D750 / Lens : Sigma 14mm. / Focal length : 14 mm. / Aperture : f/1.8 / ISO : 4000 / Exposure : 15 sec / WB5650K)
ในเดือนกุมภาพันธ์ถือเป็นช่วงเริ่มต้นถ่ายภาพทางช้างเผือกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงรุ่งเช้า ตั้งแต่เวลาตี 5 เป็นต้นไป โดยในเดือนนี้เราจะสามารถถ่ายภาพแนวใจกลางทางช้างเผือกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ (หลังจากนั้นจะมีแสงดวงจันทร์สว่างรบกวน) ตำแหน่งใจกลางทางช้างเผือกจะอยู่ขนานกับขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีเวลาให้เราได้ถ่ายภาพประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมง ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีดาวอังคารอยู่ใกล้กับใจกลางทางช้างเผือก ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการออกล่าทางช้างเผือกกันแล้วครับ

โดยเหล่าบรรดานักถ่ายภาพดาราศาสตร์ ก็เริ่มออกไปล่าทางช้างเผือกกันแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มต้นนี้ นอกจากใจกลางทางช้างเผือกแล้วยังมีดาวเคราะห์ถึง 3 ดวง ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ ใกล้กับแนวทางช้างเผือกอีกด้วย

ภาพจำลองแสดงแนวทางช้างเผือก ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงเวลา 05.40 น.
**************************

<ฺฺB>สิ่งที่ควรให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพทางช้างเผือกในช่วงต้นปี มีดังนี้

1. เวลา : เวลาที่สามารถสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ เช่นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เราจะสามารถเริ่มสังเกตเห็นแนวใจกลางทางช้างเผือกได้ตั้งแต่ก่อนรุ่งเช้าเวลา 5.00 น. เป็นต้นไป ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

2. สถานที่ : สถานที่ถ่ายภาพทางช้างเผือกต้องมีความมืดสนิทปราศจากแสงรบกวนหรือมลภาวะทางแสง โดยเฉพาะบริเวณขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

3. ทัศนวิสัยของท้องฟ้า : โดยเทคนิคที่ใช้ในการสังเกตค่าทัศนวิสัยของท้องฟ้าดีแค่ไหนนั้น เราสามารถดูจากการกระพริบแสงของดาวฤกษ์บริเวณขอบฟ้าได้เช่นกัน หากท้องฟ้าใสเคลียร์มีทัศนวิสัยท้องฟ้าที่ดี ดาวฤกษ์มักไม่ค่อยกระพริบแสง แต่หากสังเกตเห็นว่าแสงของดาวฤกษ์มีการกระพริบแสงค่อนข้างมาก ก็แสดงให้เห็นว่าท้องฟ้ามีฝุ่นหรือเมฆอยู่พอสมควรซึ่งอาจทำให้บดบังทัศนวิสัยของท้องฟ้าได้

4. อุปกรณ์ : กล้อง เลนส์ และขาตั้งกล้อง ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้ในการถ่ายภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพที่ใช้ควรจะสามารถปรับค่าความไวแสง(ISO) ได้สูงๆ รวมทั้งเลนส์มุมกว้างแบบไวแสง (รูรับแสงกว้างๆ) ก็จะช่วยให้เราได้ภาพทางช้างเผือกที่สว่างชัดเจนมากขึ้น


***************************

เทคนิคในการถ่ายภาพทางช้างเผือก เพื่อให้ได้ภาพ (ในช่วงเดือนนี้)

1. ปรับโฟกัสให้คมชัดที่สุดด้วยดาวสว่าง (ปิดระบบออโต้โฟกัส) เช่นช่วงนี้สามารถใช้ดาวพฤหัสบดี หรือดาวแอนทาเรสในกลุ่มดาวแมลป่องช่วยในการปรับโฟกัสได้

2. เริ่มต้นถ่ายภาพด้วยความไวแสง (ISO) ที่สูงที่สุด และรูรับแสงที่กว้างที่สุด ด้วยเวลาการเปิดหน้ากล้องไม่นานมากนัก หลังจากที่ถ่ายติดภาพทางช้างเผือกแล้ว จึงค่อยปรับองค์ประกอบภาพ และลดค่าความไวแสงลงมาพร้อมทั้งใช้การคำนวณเวลาการถ่ายภาพจากสูตร Rule of 400/600 (https://goo.gl/zzTcsH)

3. ตำแหน่งทางช้างเผือก ยิ่งสูงยิ่งชัดเจน ดังนั้นหากต้องการให้ได้ภาพทางช้างเผือกที่สว่างชัดเจนมากที่สุด ควรถ่ายภาพในช่วงที่แนวใจกลางอยู่สูงจากขอบฟ้ามากที่สุด โดยต้องถ่ายภาพต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และหยุดถ่ายเมื่อเริ่มมีแสงดวงอาทิตย์รบกวน แล้วนำภาพทั้งหมดมาเลือกในภายหลัง เนื่องจากในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เรามีเวลาถ่ายภาพทางช้างเผือกไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นทุกอย่างต้องรวดเร็วแข่งกับเวลา

4. เปิดระบบ Long Exposure Noise Reduction เพื่อลดสัญญาณรบกวน พร้อมกับภารถ่ายภาพด้วย RAW file เพื่อสามารถนำมาปรับในภายหลัง


เกี่ยวกับผู้เขียน
ศุภฤกษ์ คฤหานนท์

สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ปัจจุบันเป็นหัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร., เคยทำวิจัยเรื่อง การทดสอบค่าทัศนวิสัยท้องฟ้าบริเวณสถานที่ก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ มีประสบการณ์ในฐานะวิทยากรอบรมการดูดาวเบื้องต้น และเป็นวิทยากรสอนการถ่ายภาพดาราศาสตร์ในโครงการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ประจำปี 2554 ของ สดร.ในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์ในเมืองไทย”

“คุณค่าของภาพถ่ายนั้นไม่เพียงแต่ให้ความงามด้านศิลปะ แต่ทุกภาพยังสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย”

อ่านบทความ "มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์" โดย ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน



กำลังโหลดความคิดเห็น