ผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์ปันประประสบการณ์ใช้ AI และบล็อกเชนพัฒนาอุตสาหกรรม "กัญชา" ชี้ประโยชน์ช่วยประหยัดเวลาวิเคราะห์การปลูก รวมถึงวิเคราะห์คุณสมบัติทางการแพทย์ อีกทั้งยังตรวจสอบย้อนกลับถึงต้นกัญชาที่ปลูกได้
ตัวแทนจากบริษัท GH Medical ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำกัญชาไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อันดับต้นๆ ของโลก ได้เดินทางมาแบ่งปันประสบการณ์เรื่องอุตสาหกรรมยาที่ใช้กัญชา ภายในงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยวิทยาศตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เมื่อเร็วๆ นี้ ณ วว.เทคโนธานี
มร.คริสโตเฟอร์ สมิธ (Christopher Smith) จาก GH Medical เนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงบทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และระบบโครงข่ายหรือบล็อกเชน (Blockchain tecnology) ในอุตสาหกรรมยาที่ใช้กัญชา โดย AI จะช่วยในการประเมินผลผลิตกัญชา ผลที่ได้รับจากกัญชา ผลกระทบต่อร่างกาย การประเมินทางการตลาดจากการใช้ข้อมูลทางพันธุกรรม ข้อมูลการเพาะปลูก ข้อมูลการใช้กัญชา ข้อมูลทางการตลาด ส่วนบล็อกเชนจะช่วยส่งเสริมตลาดการขายกัญชาให้ความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
มร.สมิธ ยกตัวอย่างการใช้ AI ในการปลูกกัญชาว่า การปรับปรุงกัญชาต้องใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาล ทั้งข้อมูลแสงสว่าง ความชื้น ดิน ปุ๋ย รวมถึงข้อมูลการเติบโต ซึ่งเป็นข้อมูลที่เยอะมาก อีกทั้งสายพันธุ์กัญขามีนับ 1,000 สายพันธุ์ การประมวลผลหาสายพันธุ์ที่ดีที่สุดนั้น ให้มนุษย์ประเมินไม่ไหว การใช้ AI จะช่วยประมวลผลจากข้อมูลมหาศาลได้ดีกว่า และถ้าใช้มนุษย์วิเคราะห์ข้อมูลอาจได้แค่มุมมองเดียว และการใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) จะมองได้หลายมุมมากขึ้น
ส่วนเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นจะช่วยในการตรวจสอบย้อนไปถึงต้นกำเนิดของกัญชาได้ ตั้งแต่สายพันธุ์ที่ใช่ แหล่งที่ปลูก ดินที่ใช้ เช่น น้ำกัญชาในบางสายการผลิตส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้ ก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปได้ว่าน้ำมันกัญชานั้นผลิตขึ้นเมื่อไหร่ จำนวนเท่าไหร่ แจกจ่ายไปที่ใดบ้าง ตลอดจนตรวจสอบย้อนไปถึงแหล่งผลิตได้