xs
xsm
sm
md
lg

ชมชัดๆ ลักษณะบ่งบอก “เลพัง” เป็นจระเข้น้ำเค็ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เลพัง จระเข้น้ำเค็มที่ถูกจับไปดูแลเบื้องต้นที่ “บ่อพักฟื้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต)” (เครดิต: ญาณพล ไชยวุฒิ)
"เลพัง" จระเข้น้ำเค็มที่ถูกจับไปดูแลเบื้องต้นที่ “บ่อพักฟื้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต)” (เครดิต: ญาณพล ไชยวุฒิ)

หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจระเข้ที่พบในทะเลภูเก็ตนั้นเป็นจระเข้น้ำเค็มหรือไม่ บางส่วนเชื่อว่าเป็นจระเข้น้ำจืดที่หลุดสู่ธรรมชาติ แต่ล่าไกด์ทางทะเลได้เผยภาพที่ยืนยันว่า “เลพัง” นั้นเป็น “จระเข้น้ำเค็ม”

ทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ภาพถ่ายที่ยืนยันว่า จระเข้ซึ่งหลบเข้าไปอยู่ในขุมน้ำหน้าหาดเลพัง จ.ภูเก็ต และถูกจับไปดูแลเบื้องต้นที่ “บ่อพักฟื้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต)” บ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น เป็นจระเข้น้ำเค็มอย่างแน่นอน

ภาพดังกล่าวบันทึกโดย ญาณพล ไชยวุฒิ มัคคุเทศน์ทางทะเลที่เข้าไปเยี่ยม จระเข้น้ำเค็มตัวดังกล่าวที่บ่อพักฟื้นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) โดยภาพส่วนหัว คอและส่วนตีนหลังเป็นลักษณะทางกายภาพที่ระบุว่า จระเข้ดังกล่าว ซึ่ง ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักสมุทรศาสตร์ชื่อดังระบุว่ามีชื่อ “เลพัง” นั้น เป็นจระเข้น้ำเค็ม

เมื่อสังเกตบริเวณหัวตรงส่วนคอของจระเข้ “เลพัง” นั้น ไม่เป็นเกล็ดเรียงตัวกันยาว 4 แถวเหมือนจระเข้น้ำจืด ส่วนตีนหลังนั้นมีแผ่นพังพืดขนาดใหญ่ติดตีน เพื่อช่วยในการว่ายน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นจระเข้น้ำเค็ม

พร้อมกันนี้ ญาณพลยังให้ข้อมูลอีกว่าองค์ความรู้ในการศึกษาจระเข้ของไทยนั้นส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชน ส่วนการศึกษาในธรรมชาตินั้นไม่มีเพียงพอ เนื่องจากจระเข้ของไทยสูญพันธุ์ไปนานแล้ว กระทั่งมีการปล่อยจระเข้คืนป่าปางสีดา จากนั้นก็มีข่าวการพบจระเข้ที่คลองชมภู จ.พิษณุโลก และข่าวเจรังจระเข้ที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี แต่ทั้งหมดที่พบนั้นเป็นจระเข้น้ำจืด

ญาณพลระบุอีกว่ามีความพยายามนำจระเข้คืนถิ่นหลายครั้ง ทั้งที่บึงบอระเพ็ด อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โดยมีภาคเอกชนที่มีองค์ความรู้ด้านจระเข้เป็นอย่างดียินดีมอบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จระเข้ แต่คนต่อต้านจึงต้องงดไป

ส่วนความรู้เกี่ยวกับจระเข้น้ำเค็มนั้น ไกด์ทางทะเลระบุว่า นับแต่เกิดเรื่อง "ไอ้ด่าง บางมุด" จระเข้น้ำเค็มที่เคยออกกินคนใน จ.ชุมพร ช่วงปี 2507 แล้วเรื่องเกี่ยวกับจระเข้น้ำเค็มก็หายไป จนกระทั่งมีข่าวพบจระเข้น้ำเค็มที่หาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต และ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา แล้วเรื่องก็เงียบไปอีก และมาพบอีกครั้งที่หาดเลพัง จ.ภูเก็ต ในครั้งล่าสุดนี้
บริเวณหัวตรงส่วนคอของจระเข้ “เลพัง” นั้น ไม่เป็นเกล็ดเรียงตัวกันยาว 4 แถวเหมือนจระเข้น้ำจืด  (เครดิต: ญาณพล ไชยวุฒิ)
ส่วนตีนหลังนั้นมีแผ่นพังพืดขนาดใหญ่ติดตีน เพื่อช่วยในการว่ายน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นจระเข้น้ำเค็ม  (เครดิต: ญาณพล ไชยวุฒิ)
กำลังโหลดความคิดเห็น