นักวิทยาศาสตร์ในชิลีผลิตเอ็มบริโอไก่ที่เจริญเติบโตขึ้นแล้วมีตีนแบบไดโนเสาร์หลังได้รับการจัดการพันธุกรรม เพื่อเน้นให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางวิวัฒนาการระหว่างไดโนเสาร์ทีโรพอดและสัตว์ปีก
การค้นพบดังกล่าวได้ตีพิมพ์ลงวารสารอีโวลูชัน (Evolution) ซึ่ง อเล็กซานเดอร์ วาร์กัส (Alexander Vargas) หนึ่งใน 6 สมาชิกทีมวิจัยเรื่องดังกล่าว ระบุว่า จากการยับยั้งการเจริญเติบโตอย่างเต็มของขาตัวอ่อนไก่ ขานั้นจะวิวัฒนาการกับไปมีรูปร่างเหมือนที่ไดโนเสาร์เคยมี
"ผลที่ได้รับคือตัวอ่อนไก่ที่มาพร้อมขาไดโนเสาร์” วาร์กัสเผยแก่เอเอฟพี และอธิบายถึงสิ่งที่เทียบเท่ากับ “การวิวัฒนาการย้อนกลับ”
สำหรับเป็นกลุ่มไดโนเสาร์ที่เริ่มต้นมาจากไดโนเสาร์กินเนื้อ แต่ได้วิวัฒนาการเพื่อกินพืชและแมลงเป็นอาหาร
ทั้งนี้ นกนั้นวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์ขนาดเล็กอย่างทีโรพอดส์ในยุคจูราสสิคเมื่อ 145 ล้านปีก่อน
ในการศึกษานี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้จัดการยีนที่เรียกว่า “อินเดียน เฮดจ์ฮอก โฮโมลอก” (Indian Hedgehog Homolog) ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในสัตว์ทุกชนิด รวมถึงมนุษย์ด้วย
เอเอฟพีระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะชี้ชัดว่าเมื่อไรที่สัตว์ปีกมีกระดูกฟิบูลา (fibula bone) เหมือนไดโนเสาร์ เมื่อพวกเขาชะลอการพัฒนาในช่วงแรกเริ่ม กระดูกก็เปลี่ยนเป็นทรงกระบอกที่เคยมีในไดโนเสาร์
วาร์กัสระบุเพิ่มเติมว่า งานวิจัยนี้น่าจะฉายภาพใหม่ๆ ไม่เพียงแค่ความเชื่อมโยงระหว่างนกและไดโนเสาร์ แต่การเปลี่ยนแปลงระดับยีนยังมีส่วนร่วมในวิวัฒนาการด้วย
งานวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์บราซิลชื่อ โจอาว โบเทโล (Joao Botelho) จากมหาวิทยาลัยชิลี ยังยืนยันถึงสมมติฐานว่า สามารถสร้างกระดูกขึ้นใหม่โดยมีคุณสมบัติที่ต้องการจากวิวัฒนาการในอดีต โดยแทรกแซงการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงต้นๆ ของการเจริญเติบโต
