นับเป็นอีกภาพยนตร์รักที่รับกับเทศกาลวาเลนไทน์สำหรับ The Theory of Everything ภาพยนตร์ชีวประวัติของ “สตีเฟน ฮอว์กิง” แต่นอกจากความหวานซึ้งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจคือบทบาทสมจริงของนักแสดงนำที่แสดงอาการของผู้ป่วย “เอแอลเอส” ที่พรากความสามารถในการเคลื่อนไหวของนักฟิสิกส์ก้องโลก
เว็บไซต์ vox.com ระบุว่า เป็นเรื่องสมควรที่ เอ็ดดี เรดเมย์น (Eddie Redmayne) นักแสดงชาวอังกฤษจากภาพยนตร์ The Theory of Everything ผู้รับบทเป็น สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์วัย 72 ปี ผู้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายใดๆ แม้แต่การออกเสียง จะได้รับรางวัลมากมาย เพราะการแสดงอันสมบทบาทที่มาพร้อมกับการทำการบ้านอย่างหนัก
เรดเมย์นฝึกการแสดงร่วมกับ อเล็กซานดรา เรย์โนลด์ส (Alexandra Reynolds) นักออกแบบท่าทางของฮอลลิวูดที่นำเอาท่วงท่าของซอมบี้จากภาพยนตร์ World War Z มาใช้ นอกจากนี้เรดเมย์น เรียนรู้อาการในแต่ละระยะของผู้ป่วยโรคเอแอลเอส (ALS) หรือโรคลูเกริก (Lou Gehrig's Disease) ที่ฮอว์กิงเผชิญ จาก เคที ไซเดิล (Katie Sidle) ที่ปรึกษาด้านประสาทวิทยาจากศูนย์โรคกล้ามเนื้อร่วมประสาทควีนสแควร์ (Queen Square Centre for Neuromuscular Diseases)
ทั้งเรดเมย์นและไซเดิลร่วมกันศึกษาภาพถ่ายของฮอว์กิงที่แสดงอาการของโรคในแต่ละระยะ และได้สร้างแผนภูมิติดตามการเกิดโรคในแต่ละระยะของฮอว์กิง ทำให้เขาแสดงแต่ละช่วงขณะของฮอว์กิงระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเป็นฉากๆ อย่างไม่ต่อเนื่องได้อย่างสมจริง
บทสัมภาษณ์ในเว็บไซต์ notimpossiblenow.com เรดเมย์นเผยว่าใช้เวลาถึง 4 เดือนในคลีนิคโรคเอแอลเอสที่ลอนดอน และผู้เชี่ยวชาญโรคยังแนะนำให้เขาได้รู้จักทั้งโรคและครอบครัวของผู้ป่วยเป็นโรคนี้ด้วย และเขายังได้พบกับฮอว์กิงตัวจริงพร้อมเจนผู้เป็นภรรยา ก่อนการถ่ายทำภาพยนตร์ 4-5 วัน ซึ่งหลังจากค้นหาบุคลิกเป็นเวลานานเขาก็ได้ฮอว์กิงเป็นต้นแบบ เนื่องจากฮอว์กิงต้องใช้เวลาในการพูดแต่ละครั้ง ทำให้มีช่วยที่เงียบงันและเขาเกลียดความเงียบ ดังนั้นเขาจึงได้แต่พ่นข้อมูลของฮอว์กิงให้ฮอว์กิงฟัง ซึ่งเขารู้สึกอาย
“หลังผ่านไปประมาณ 40 นาที ผมก็เย็นลง เขาเจ๋งมาก เขาตลก เขายังมีปัญญาเฉียบแหลม และเป็นประกายที่ดูกวนๆ แต่ยังทรงอำนาจมาก เขาควบคุมทั้งห้องได้จริงๆ ดังนั้น ผมจึงพยายามที่จะรวมทั้งหมดนั้นไว้ในการแสดงของผม” เรดเมย์นให้สัมภาษณ์
ล่าสุดเรดเมย์นได้รังรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในการมอบรางวัลบาฟตา (BAFTA) สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ ประจำปี 2015 ไปตามคาด ซึ่งระหว่างการประกาศรางวัลฮอว์กิงยังมาร่วมในงานด้วย และเขายังได้รับการเสนชื่อชิงรางวัลออสการ์ของฝั่งสหรัฐฯ ในสาขาเดียวกันนี้ด้วย และก่อนหน้านี้เขายังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงยอดเยี่ยมจากการรับบทของนักฟิสิกส์รุ่นใหญ่เช่นกัน
*******************************