ปฏิบัติการสืบค้นข้อมูลภูมิอากาศโลกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ขุดแกนน้ำแข็งจากใจกลางแอนตาร์กติกา เพื่อกู้คืนข้อมูลวิวัฒนาการของภูมิอากาศโลกที่ถูกแช่แข็งไว้กว่า 2,000 ปี รวมถึงคาดหวังว่าจะนำไปสู่การค้นพบแกนน้ำแข็งอายุล้านปีซึ่งเปรียบเสมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” ในทางวิทยาศาสตร์
การขุดเจาะน้ำแข็งจากใจกลางทวีปแอนตาร์กติกาทางขั้วโลกใต้นี้ เป็นความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์นานาชาติในโครงการออโรราเบซินนอร์ธ (Aurora Basin North project) ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลีย จีน ฝรั่งเศส เดนมาร์ก เยอรมนี และสหรัฐฯ เข้าร่วม โดยจุดที่ขุดเจาะนั้นอยู่ใน แอ่งออโรรา (Aurora Basin) ห่างจากสถานีวิจัยขั้วโลกใต้คาซีย์ (Casey) ของออสเตรเลีย ประมาณ 500 กิโลเมตร
นอกจากต้องการกู้ข้อมูลวิวัฒนาการภูมิอากาศโลกแล้ว เอเอฟพีรายงานว่าทางทีมนักวิทยาศาสตร์ยังคาดหวังว่า ข้อมูลนี้จะช่วยในค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์ในทางวิทยาศาสตร์ นั่นคือแกนน้ำแข็งอายุล้านปี ซึ่งการเดินทางนาน 5 สัปดาห์ได้พาทีมนักวิทยาศาสตร์เข้าถึงพื้นที่อันธุรกันดาร แต่เป็นแหล่งของน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในทวีป ซึ่งความหนาของน้ำแข็งกว่า 3 กิโลเมตร ช่วยให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าถึงแหล่งข้อมูลภูมิอากาศในอดีตที่มีรายละเอียดมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ทีมนักวิทยาศาสตร์ทำงานที่อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส และขุดเจาะแกนน้ำแข็งเป็นความยาว 303 เมตร โดยแกนน้ำแข็งหนักราว 2 ตันนี้กำลังถูกลำเลียงไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการในออสเตรเลียและห้องปฏิบัติการนานาชาติ ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์จะได้ทำการวิเคราะห์ก๊าซบรรยากาศ อนุภาคต่างๆ และองค์ประกอบทางเคมีที่ถูกดักจับระหว่างหิมะตกในอดีต แล้วอัดแน่นอยู่ในรูปของน้ำแข็ง
มาร์ก เคอร์แรน (Mark Curran) หัวหน้าโครงการและนักธรณีวิทยาจากกองแอนตาร์กติกาของออสเตรเลีย กล่าวว่า ข้อมูลนี้จะช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ทางด้านภูมิอากาศที่ถูกบันทึกไว้แก่สังคมวิทยาศาสตร์ ซึ่งการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ในหลายๆ รูปแบบจะทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำแข็งก่อตัวขึ้น ปรากฏการณ์พายุต่างๆ รวมถึงกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ และปรากฏการณ์ทางด้านภูเขาไฟ ขอบเขตของน้ำแข็งทะเล และความเข้มข้นของก๊าซบรรยากาศต่างๆ ตลอดช่วงเวลาในอดีต
ข้อมูลบรรยากาศในอดีตจากแกนน้ำแข็งดังกล่าวมีอายุย้อนไปประมาณ 2,000 ปี ซึ่งมีน้ำแข็งเพียงหยิบมือที่ให้รายละเอียดได้เท่านี้ และเป็นแกนน้ำแข็งแท่งที่ 2 จากส่วนนี้ของทางแอนตาร์กติกาตะวันออกที่ถูกขุดเจาะขึ้นมา และทีมนักวิทยาศาสตร์ยังใช้เครื่องขุดเจาะขนาดเล็กกว่าเพื่อขุดเกาะแกนน้ำแข็งยาว 116 เมตร และ 103 เมตร ซึ่งให้ข้อมูลภูมิอากาศในอดีตย้อนไป 800-1,000 ปี
นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้ระหว่างขุดเจาะก็จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์กำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมในการขุดเจาะหาแกนน้ำแข็งที่มีอายุ 1 ล้านปีต่อไปในอนาคต ซึ่งเคอร์แรนกล่าวว่าแกนน้ำแข็งดังกล่าว จะช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารในความถี่ของยุคน้ำแข็งเมื่อประมาณ 800,000 ปีก่อน รวมถึงเข้าใจในบทบาทของคาร์บอนไดออกไซด์ต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศให้มากขึ้นด้วย
