ญี่ปุ่นมองหาอาหารไทยไปอวกาศ

อะไรจะเป็นสิ่งจรรโลงมากที่สุดสำหรับคนไกลบ้านอย่างมนุษย์อวกาศที่ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดนานถึง 6 เดือน การได้กินอาหารอร่อยๆ น่าจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมบรรเทิงแก่เล่ามนุษย์ในวงโคจรได้ แต่จะเอาขึ้นอาหารแบบใดขึ้นสู่วงโคจรเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องช่วยกันพัฒนา

คาซูเอะ อูเอยามา วิศวกรจากแผนกการใช้ประโยชน์และการดำเนินงานสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ขององค์กรระบบปฏิบัติการอวกาศโดยมนุษย์ญี่ปุ่น (JAMSS) กล่าวว่า การใช้ชีวิตนาน 6 เดือนในพื้นที่แคบๆ ของสถานีอวกาศ ทำให้อาหารกลายเป็นเรื่องสำคัญ ที่ช่วยให้ลูกเรือมีแรงปฏิบัติงาน

“ช่วงเวลากินอาหารเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์ที่สุด” อูเอยามากล่าว พร้อมอธิบายว่า บนสถานีอวกาศมีโมดูลสำหรับรับประทานอาหารโดยเฉพาะ และอาหารที่นำขึ้นไปต้องพร้อมรับประทาน และบรรจุอยู่ในซองสุญญากาศ เมื่อจะรับประทานต้องนำไปเติมน้ำร้อนจากท่อจ่ายภายในโมดูล

“ส่วนมากเป็นอาหารญี่ปุ่น มีอาหารไทยอย่างเดียวคือต้มยำกุ้ง ซึ่งอาหารไทยเป็นที่ต้องการในอวกาศ และเรากำลังตั้งหน้าตั้งตารอความร่วมมือในการพัฒนาอาหารอวกาศจากอาหารไทย ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับอาหารอวกาศคือ ต้องปลอดภัย อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ” วิศวกรสาวด้านการพัฒนาระบบเพื่อรองรับการปฏิบัติงานของมนุษย์อวกาศกล่าว

ทางด้าน มาโกโตะ ฟูรุกาวา วิศวกรอาวุโส จากหน่วยเดียวกับอูเอยามาแจกแจงว่า ปัจจุบันแจกซาได้พัฒนาอาหารอวกาศแล้วกว่า 30 ชนิด แต่ทางแจกซาซึ่ง JAMSS ทำวิจัยเพื่อสนับสนุนงานให้นั้น ต้องการขยายเมนูอาหารอวกาศออกไป แต่อาหารญี่ปุ่นมีข้อจำกัด จึงมองหาความร่วมมือร่วมกับไทยเพื่อพัฒนาอาหารอวกาศต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ มีการเจรจาในเบื้องต้นระหว่างทีมงานจาก JAMSS และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งฟูรุกาวาชี้ทางว่า ทางญี่ปุ่นได้พัฒนาแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารอวกาศแล้ว ทางไทยก็น่าจะพัฒนาแกงไทยเป็นอาหารอวกาศบ้าง

พร้อมกันนี้ โยอิชิ ฮาเซกาวา วิศวกรอาวุโส จากศูนย์บ่มเพาะธุรกิจอวกาศ JAMSS ยังกล่าวถึงความร่วมมือด้านอวกาศระหว่างไทยและญี่ปุ่น ว่าไทยเคยส่งเมล็ดพริกขี้หนูขึ้นไปบนสถานีอวกาศ โดยความร่วมมือกับองค์การอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) และเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวได้ถูกกระจายไปยังโรงเรียนต่างๆ ของไทย ซึ่งทางญี่ปุ่นก็มีโครงการคล้ายกันโดยนำเมล็ดพันธุ์ของญี่ปุ่น อาทิ ซากุระ ขึ้นสู่อวกาศแล้วนำลงมาแจกจ่ายเพื่อขยายพันธุ์