xs
xsm
sm
md
lg

เด็กหลอดแก้วคนแรกอาลัย “โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส” ผู้ให้กำเนิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.เซอร์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส
วงการแพทย์สูญเสีย “โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส” นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ บิดาผู้ให้กำเนิดเด็กหลอดแก้ว ลาโลกด้วยวัย 87 ปี หลังฝากผลงานสะท้านวงการวิทยาศาสตร์และศาสนจักร

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2013 ทางมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) ในสหราชอาณาจักร ได้ออกมาแถลงถึงการจากไปของ ศาสตราจารย์ เซอร์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส (Prof Sir Robert Edwards ) บิดาผู้ให้กำเนิดเด็กหลอดแก้วว่า เขาได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบภายในบ้านพักของเขาที่อยู่นอกเมืองเคมบริดจ์ด้วยวัย 87 ปี หลังจากที่ป่วยมาเป็นเวลานาน ซึ่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นต้นสังกัดและเป็นสถานที่ผลิตผลงานวิจัยที่สร้างชื่อให้แก่ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส์

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดสเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกท่านหนึ่ง และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “บิดาผู้ให้กำเนิดเด็กหลอดแก้ว” โดยเขาได้ทำงานร่วมกับ ดร.แพทริค สเต็ปโต (Dr. Patrick Steptoe) ในการพัฒนาเทคโนโลยีการปฏิสนธินอกร่างกาย หรือ ไอวีเอฟ (In Vitro Fertilization : IVF) หรือการทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อช่วยเหลือผู้มีบุตรยาก จนสำเร็จผลครั้งแรกและได้ให้กำเนิดเด็กหลอดแก้วคนแรกของโลกในปี 1978 นั่นคือ “หลุยส์ บราวน์” (Louise Brown) ซึ่งปัจจุบันอายุ 35 ปี

อย่างไรก็ตาม ผลสำเร็จของเทคโนโลยีในครั้งนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองท่านถูกกล่าวหาจากฝ่ายตรงข้ามว่า กำลังเล่นกับพระเจ้า และแทรกแซงกระบวนการของธรรมชาติ โดยหลังจากนั้นไม่นาน สมาคมการเจริญพันธุ์ของมนุษย์และคัพภวิทยาแห่งยุโรป (European Society for Human Reproduction and Embryology) ก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้น และจนถึงปัจจุบันนี้ก็มีทารกที่ถือกำเนิดขึ้นด้วยเทคโนโลยีไอวีเอฟแล้วกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก ตามรายงานข่าวจากเอพี

“การทำเด็กหลอดแก้วเป็นผลสำเร็จของเอ็ดเวิร์ด นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ในศตวรรษที่ 20 ที่ได้รับการสานต่อมาในระยะยาว และแม้ว่าจะถูกสบประมาทอย่างมากก็ตาม” โจ ไลจ์ ซิมป์สัน (Joe Leigh Simpson) ประธานสมาพันธ์สมาคมด้านการเจริญพันธุ์นานาชาติ (International Federation of Fertility Societies) กล่าวยกย่องผลสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์ผู้ลาโลก

ซิมป์สันยังบอกอีกว่า เขาเป็นผู้วางรากฐานให้คู่สมรสที่มีบุตรยากทั่วโลกได้สมปรารถนา โดย 1-4 เปอร์เซ็นต์ของทารกทั้งหมดในยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลียในปัจจุบันนี้ลืมตาดูโลกด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่บุกเบิกขึ้น โดยศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส์ เขาจะได้รับการระลึกถึงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าในทุกๆ ปีจะมีเด็กหลอดแก้วเกิดขึ้นประมาณ 350,000 คน  ซึ่งมีทั้งที่เกิดจากคู่สมรสที่มีปัญหาทางด้านการเจริญพันธุ์ คนโสดที่ต้องการมีบุตร รวมไปถึงคู่รักร่วมเพศทั้งชายและหญิง

“เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ธรรมดา” ดร.ปีเตอร์ เบราด์ (Dr. Peter Braude) ศาสตราจารย์กิตติคุณทางด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน (King's College London) กล่าวยกย่องศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส ซึ่งเขาเคยทำงานอยู่ที่เคมบริดจ์ในช่วงที่ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ด และ ดร.เสต็ปโต ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีไอวีเอฟ
โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส และเด็กหลอดแก้วที่เขาให้กำเนิด โซฟี (Sophie) และ แจ็ค เอเมอรี (Jack Emery) ในงานวันเกิด 2 ขวบ เมื่อปี 1998
ขณะเดียวกัน บีบีซีนิวส์ได้เปิดเผยว่านางหลุยส์ บราวน์ ซึ่งเป็นเด็กหลอดแก้วคนแรกของโลกได้กล่าวยกย่องศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส์ว่า เธอเคารพนับถือเขาประดุจคุณปู่ของเธอ

“ผลงานของท่านได้นำความสุขมาสู่ผู้คนหลายล้านครอบครัวทั่วโลกที่สามารถให้กำเนิดทารกมาเติมเต็มชีวิตครอบครัว ฉันปลื้มใจมากที่ท่านมีอายุยืนยาวจนถึงวันที่ท่านได้รับรางวัลโนเบลอันเป็นเครื่องประกาศเกียรติคุณในการทำงานของท่าน และมรดกของท่านจะยังคงอยู่ต่อไปกับการทำงานทางด้านไอวีเอฟที่ได้รับการสืบทอดไปทั่วโลก” บราวน์กล่าวไว้ในบีบีซีนิวส์

ทั้งนี้ ผลสำเร็จในความพยายามช่วยเหลือผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีการปฏิสนธินอกร่างกาย ส่งผลให้ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์และการแพทย์ในปี 2553 ในขณะที่ ดร.สเต็ปโต พลาดรางวัลนี้ไปเนื่องจากเขาได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกได้ออกมาประณามการมอบรางวัลโนเบลในครั้งนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าชีวิตมนุษย์ควรถือกำเนิดขึ้นจากการปฏิสนธิตามธรรมชาติในครรภ์มารดาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในหลอดแก้ว โดยสำนักวาติกันได้ระบุว่า เอ็ดเวิร์ดส์เป็นผู้ที่ทำให้เกิดช่องว่างต่อความรับผิดชอบทางศีลธรรมจรรยาในการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น และทุกวิถีทางที่ผิดจริยธรรมที่อาจเกิดขึ้นได้จากเทคโนโลยีไอวีเอฟ

ถึงกระนั้น ในปี 2554 ศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดส์ ก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในด้านชีววิทยาการเจริญพันธุ์ และยังได้รับการยกย่องจากเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ว่า วิสัยทัศน์ของเขาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับมนุษย์ไปตลอดกาล

ทั้งนี้ บีบีซีนิวส์กล่าวถึงอัตชีวประวัติดของศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดสโดยย่อว่า เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2468 ในเมืองยอร์กเชียร์ของอังกฤษ เขาเคยเข้าร่วมเป็นทหารรับใช้ชาติของกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะกลับไปศึกษาต่อ โดยเริ่มแรกเขาศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร ต่อด้วยพันธุศาสตร์สัตว์ ก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์และสร้างผลงานเด็กหลอดแก้วให้เป็นที่จดจำไปทั่วโลก
โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส และเด็กหลอดแก้วคนแรกของเขา หลุยส์ บราวน์ (ขวา) และแม่ของเธอ เลสลีย์ บราวน์ (กลาง)






กำลังโหลดความคิดเห็น