พลังเต่า! ลีลาว่ายน้ำด้วยขาเทียมคู่ใหม่

“เต่าหัวฆ้อน” เพศเมียที่เสียขาคู่หน้าไป เนื่องจากการจู่โจมของฉลาม ได้ทดสอบขาเทียมคู่ใหม่ ซึ่งเป็นคู่ที่ 27 แ้ล้ว อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใกล้กับเมืองโกเบในญี่ปุ่น โดยขาเทียมดังกล่าวเป็นผลงานจากการพัฒนาเทคโนโลยีครีบเทียมของญี่ปุ่น

ยู (Yu) เต่าหัวฆ้อน (loggerhead turtle) เพศเมียอายุราว 25 ปี ซึ่งเสียขาคู่หน้าจากการถูกฉลามจู่โจม ได้อวดโฉมขาเทียมคู่ใหม่ ซึ่งเป็นคู่ที่ 27 แล้วภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมาอควอไลฟ์ปาร์ก (Suma Aqualife Park) ในเมืองโกเบทางตะวันตกของญี่ปุ่น ท่ามกลางฝูงชนที่เบียดกันเข้ามาชม

นาโอกิ คาเมซากิ (Naoki Kamezaki) ภัณฑรักษ์ประจำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอธิบายแก่เอเอฟพีว่า ขาเทียมยางคู่นั้นถูกเชื่อมกับเสื้อกั๊กที่สวมผ่านหัวเต่าได้ ซึ่งพวกเขาต่างมุ่งมั่นในการออกแบบเสื้อกั๊กเพื่อป้องกันไม่ให้เต่าทำเสื้อหลุดโดยไม่ตั้งใจ และเต่ายังสะบัดขาได้ เนื่องจากเสื้อกั๊กค่อนข้างนุ่ม

ยูได้รับความช่วยเหลือจากชาวประมงซึ่งดึงเธอออกจากอวน แล้วถูกนำมามอบให้แก่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมาอควอไลฟ์ปาร์ก เมื่อกลางปี 2008 โดย 1 ใน 3 ของขาขวาและอีกครึ่งหนึ่งของขาซ้ายแหว่งไป ซึ่ง คาเมซากิ เชื่อว่า น่าจะถูกฉลามเข้าทำร้าย ปัจจุบันเธอหนัก 96 กิโลกรัม มีกระดองยาว 82 เซนติเมตร

ปลายปีเดียวกันนั้นทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำก็เริ่มพัฒนาขาเทียมให้เธอ ซึ่งว่ายน้ำด้วยความเร็วเพียง 60% ของความเร็วปกติ โดยขาเทียมในรุ่นก่อนหน้านั้นถูกสวมเข้าในขาส่วนที่เหลือ แต่ปรากฏว่าสร้างความเจ็บปวดให้แก่เต่า

คาเมซากิซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเต่าทะเล กล่าวว่า มีความพยายามในการสร้างขาเทียมให้แก่เต่าทั่วโลก แต่ยังไม่เคยได้ยินว่าความพยายามไหนที่ไปได้สวย หากแต่ขาเทียมที่พวกเขาพัฒนาขึ้นนั้นน่าจะเป็นกรณีเดียวที่เต่าซึ่งสวมขาเทียมจะว่ายน้ำได้โดยที่ไม่มีปัญหาใด

เมื่อปี 2004 โลมาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่โอกินาวา ญี่ปุ่น เป็นโลมาตัวแรกที่ได้ครีบหางเทียม หลังจากเสียหางไปเนื่องจากอาการเจ็บป่วย ส่วนมนุษย์เราเองก็มี ออสการ์ พิสโทเรียส (Oscar Pistorius) นักวิ่งลมกรดจากแอฟริกาใต้ ที่เอาชนะนักกรีฑาที่ร่างกายสมบูรณ์ได้ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ลอนดอน อังกฤษ เมื่อปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะเสียขาตั้งแต่ใต้เข่าลงไป และต้องสวมขาเทียมในการวิ่งแข่งก็ตาม