เอเจนซี - นักวิจัยไทยใช้แสงซินโครตรอน ศึกษาวิเคราะห์ธาตุสำคัญในเส้นผมครั้งแรกของโลก พบเส้นผม “ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม” มี 3 ธาตุสำคัญสูงกว่าคนปกติ ซึ่งมีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย และการทำงานของระบบประสาท เผยเตรียมต่อยอดงานวิจัย เพื่อเร่งหาสมุนไพรไทยผลิตยารักษาโรคสมองเสื่อมคาดใช้เวลาอีก 3-5 ปีได้ยารักษาฝีมือคนไทย
ผศ.ดร.จารุวรรณ ศิริเทพทวี อาจารย์ประจำสาขาวิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ สำนักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือ ภาวะที่สมองทำงานลดลงกว่าเดิม ทำให้ความรอบรู้ความจำ ความคิด การติดสินใจเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้ที่เป็นโรคดังกล่าว อาการอาจจะรุนแรงจนกระทบกระเทือนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และมักจะมีการทางจิตร่วมด้วย
โรคสมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) และภาวะสมองเสื่อมจากการชักนำโดยหลอดเลือด เช่น ภาวะอ้วน เส้นเลือดอุดตัน หรือ Vascular Dementia นอกจากนั้นภาวะสมองเสื่อมอาจเกิดจากการสัมผัสสารเคมี หรือความไม่สมดุลของธาตุในร่างกาย และปัจจุบันโรคสมองเสื่อมมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในทั่วโลกหากยังไม่มีการค้นพบวิธีการรักษาโรคสมองเสื่อมได้
จากรายงานล่าสุดขององค์การโรคอัลไซเมอร์นานาชาติ (Alzheimer’s Disease International) ประเมินว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมทั่วโลกประมาณ 35 ล้านคน สำหรับในประเทศไทย คาดว่า มีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมประมาณ 800,000 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และปัจจุบันยังไม่มีรายงานใดระบุสาเหตุของโรคสมองเสื่อมได้แน่ชัดบางรายงานบอกว่ามาจากกรรมพันธุ์ และบางรายงานระบุว่า มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการสัมผัสสารเคมี ความเครียด เป็นต้น
ผศ.ดร.จารุวรรณ กล่าวว่า ได้ร่วมกับทีมงานวิจัย ประกอบด้วย ดร.วันวิสา พัฒนศิริวิศวะ นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และ พญ.อัญชลี ศิริเทพทวี แพทย์ประจำโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ร่วมกันศึกษาธาตุเจือในเส้นผมของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมด้วยแสงซินโครตรอนโดยใช้เทคนิคการดูดกลืนรังสีเอ็กซ์ (X-ray Absorption Spectroscopy) เพื่อศึกษาโครงสร้างระดับอะตอมในการวัดหาแร่ธาตุและองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ในเส้นผม
เหตุที่เลือกใช้เส้นผมผู้ป่วยมาวิจัย เนื่องจากเป็นตัวอย่างที่เก็บได้ง่าย คงทน และมีการสะสมของธาตุอยู่มาก แร่ธาตุมีการสะสมตลอดตามช่วงอายุ ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างจากส่วนประกอบในเลือด และปัสสาวะรวมถึงน้ำไขสันหลัง ที่มีการปรับเปลี่ยนปริมาณธาตุในแต่ละวันไม่คงที่ โดยจะทดสอบโดยใช้เครื่อง “ซีทีสแกน” (CT Scan)
การวิจัยครั้งนี้ได้หาความไม่สมดุลของแร่ธาตุในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมชนิดต่างๆ เปรียบเทียบกับคนปกติ โดยหลีกเลี่ยงวิธีการเจาะเลือด และคัดหลั่งต่างๆ แต่ใช้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนวิเคราะห์แทน เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด ซึ่งทีมงานวิจัยได้เก็บตัวอย่างเส้นผมของผู้ป่วย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อม และคนปกติ (Normal Control) รวม 30 ราย ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมชนิดต่างๆ 15 รายในโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา
เส้นผมที่ใช้วิเคราะห์ได้จาก
- ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะสุดท้าย 1 ราย
- ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมร่วมกับโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease) 1 ราย
- เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะปานกลาง 2 ราย
- ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากการชักนำโดยหลอดเลือด เช่น ภาวะอ้วน เส้นเลือดอุดตัน หรือ Vascular Dementia 11ราย
- คนปกติทั่วไป 15 ราย
ตัวอย่างเส้นผมมีขนาด ความยาว 10 ซม.กว้าง 2 มม. และเป็นเส้นผมที่ไม่ผ่านการโกรกผม ย้อมผม ทำสี การใช้น้ำยายืดผม ดัดผม โดยตัดเอาบริเวณตั้งแต่โคนผม จากนั้นนำมาทำความสะอาด แช่น้ำยา เพื่อล้างเอาไขมัน และสิ่งเจือปนออกก่อนทำการวิจัยด้วยแสงซินโครตรอน
ผลการศึกษาพบว่า ธาตุในเส้นผมจากทั้งสองกลุ่มมีธาตุสำคัญ คือ ออกซิเจน (O) ซัลเฟอร์ (S) คลอรีน (Cl) ซิลิกอน (Si) แมกนีเซียม (Mg) แคลเซียม (Ca) ฟอสฟอรัส (P) แต่เส้นผมของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมนั้นจะมีสัดส่วนของธาตุ แคลเซียม (Ca) คลอรีน (Cl) และฟอสฟอรัส (P) ในปริมาณที่สูงกว่าคนปกติ ซึ่งค่าความน่าจะเป็นควรน้อยกว่า 0.05 โดยธาตุทั้ง 3 นั้น จะมีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย (Metabolism) รวมทั้งการทำงานของระบบประสาทมนุษย์
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่สัมพันธ์กับโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน จะมีองค์ประกอบของซัลเฟตอยู่ในระดับที่สูงกว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในกลุ่มภาวะสมองเสื่อมจากการชักนำโดยหลอดเลือด ซึ่งผลการศึกษาวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าการวิเคราะห๋หาสัดส่วนปริมาณธาตุที่สำคัญในเส้นผม และองค์ประกอบของธาตุนั้น สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการบ่งชี้ภาวะโรคสมองเสื่อมได้
ด้าน ดร.วันวิสา พัฒนศิริวิศวะ นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า แสงซินโครตรอนมีลักษณะพิเศษกว่าแสงชนิดอื่น เพราะมีความคมชัด สามารถดูองค์ประกอบต่างๆ ได้ในระดับอะตอม และสามารถวัดแร่ธาตุต่างๆที่อยู่ในเส้นผมได้ โดยทีมงานได้ใช้เทคนิคการดูดกลืนรังสีเอ็กซ์ (X-ray Absorption Spectroscopy)
เทคนิคดังกล่าวสามารถบอกองค์ประกอบของธาตุ ว่า เปลี่ยนแปลงจากซัลเฟตเป็นซัลเฟอร์ ทำให้เกิดการขับของเสียหรือเกิดเป็นพิษขึ้นมาในร่างกาย ซึ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสันจะมีซัลเฟต มากกว่าคนปกติ ส่วนผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากการชักนำโดยหลอดเลือดกับคนปกติจะไม่มีซัลเฟต สูง
ทีมวิจัยระบุว่า การศึกษาวิจัยครั้งนี้ทำให้ทราบว่าระดับความสมดุลของแร่ธาตุระหว่างคนปกติกับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม รวมทั้งโรคสมองเสื่อมชนิดต่างๆ มีธาตุเหล่านี้แตกต่างกัน เช่น พวกธาตุแคลเซียมจะเกี่ยวข้องกับระบบการเผาผลาญในร่างกาย รวมทั้งการสืบประสาทในร่างกาย หากมีแคลเซียมระดับต่ำ ก็จะทำให้เกิดโรคทางระบบประสาทได้หลายชนิด
ขณะเดียวกัน จากการสืบค้นงานวิจัยอื่นๆ ทีมวิจัย พบว่า ถ้าแคลเซียมมีปริมาณสูงมากก็ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เหตุที่แคลเซียมสูงจะชักนำให้เกิดการฝั่งตัวตามเนื้อเยื้อ (Tissue) ต่างๆ รวมทั้งสมองก็จะเกิดพยาธิภาพขึ้นมาได้ ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นประโยชน์ในศึกษาวิเคราะห์หาสัดส่วนปริมาณธาตุที่สำคัญในเส้นผม และองค์ประกอบของธาตุนั้น สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการบ่งชี้ภาวะโรคสมองเสื่อมและต่อยอดสืบค้นตัวยาได้ และเป็นเทคนิคแรกของโลกที่ทำการศึกษาจากตัวอย่างเส้นผมของคนไข้
ดร.วันวิสา กล่าวอีกว่า ทีมงานวิจัยใช้เวลาในการทำงานวิจัยชิ้นนี้นานกว่า 1 ปี และขณะนี้ได้มีการต่อยอดงานวิจัยดังกล่าว ด้วยการสืบค้นข้อมูลในการคิดค้นตัวยามาทำการรักษาผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม จากสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ตามสาเหตุโรคสมองเสื่อมแต่ละชนิด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบค้นข้อมูล แต่กว่าจะหาสมุนไพรได้ และทำการสกัดสารออกมา ก่อนนำไปทดลองในผู้ป่วยคงต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และการทำงานศึกษาวิจัยจะต้องใช้งบประมาณสนับสนุนค่อนข้างมากด้วย จึงคาดว่า ภายใน 3-5 ปี น่าจะมียารักษาผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจากพืชสมุนไพรพื้นบ้านของไทยโดยฝีมือนักวิจัยไทยแน่นอน