วช.แถลงความพร้อมจัดงานนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ชูความเด่นงานวิจัยใช้ประโยชน์ได้ ประชาชนสามรถเสนอปัญหางานวิจัยได้ พร้อมเปิดสัมมนาไทย-จีน แสวงหาโอกาสประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ศ.นพ.สุทธพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แถลงข่าวการจัดงาน “การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2555” (Thailand Research Expo 2012) ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค.55 ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ โดยภายในงานจะมีการสัมมนาและนิทรรศการผลงานวิจัยต่างๆ ใน 7 กลุ่มเรื่อง ได้แก่ งานวิจัยเพื่อนำสู่ประชาคมอาเซียน งานวิจัยเพื่อรองรับภัยพิบัติ นิทรรศการเทคโนโลยีและโรคอุบัติใหม่ งานวิจัยเพื่อคุณภาพชีวิต งานวิจัยเพื่อโลกสีเขียว งานวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม และงานวิจัยเพื่อการเกษตร
เลขาธิการ วช.กล่าวว่าจุดเด่นของงานการนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 นี้ คือการนำเสนองานวิจัยเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และนอกจากนักวิชาการแล้วประชาชนยังสามารถเข้าถึงงานวิจัย รวมถึงเสนอโจทย์วิจัยได้ โดยแนวโน้มของงานวิจัยในปีนี้เน้นเรื่องผลิตผลทางการเกษตร ทั้งเรื่องงานวิจัยเพิ่มจำนวน งานวิจัยเพิ่มคุณภาพ และงานแปรรูป
ตัวอย่างงานวิจัยที่น่าสนใจที่สามารถรับชมภายในงาน อาทิ นวัตกรรมตู้เพาะเห็ดในคอนโดมิเนียม ที่มีอุปกรณ์เพื่อความสะดวกในการเพาะเห็ดทีเหมาะสมกับพื้นที่ระเบียงคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนต์ที่มีพื้นที่ไม่มาก โดยสามารถเข้าชมได้ในโซนนิทรรศการงานวิจัยเพื่อการเกษตร นวัตกรรมนาโนซิลเวอร์เคลย์ที่นำมาขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ ซึ่งจัดแสดงในโซนนิทรรศการนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2555 หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในโซนนิทรรศการเทคโนโลยีและโรคอุบัติใหม่ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ภายในงานการนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาตินี้ยังจัดสัมมนาวิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน ครั้งที่ 1 เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับไทย-จีน โดย ศ.นพ.สุทธิพรกล่าวว่า การที่ไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นั้นจะเป็นโอกาสให้ไทยสามารถขายสินค้าแก่ผู้บริโภคได้มากกว่าแค่ 60 ล้านคนในประเทศ โดยจะเพิ่มฐานผู้บริโภคขึ้นไปเป็นพันล้านคน
“การร่วมมือกับจีนจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งสินค้าจากอาเซียนไปสู่จีน และยังเป็นจุดกระจายสินค้าจากจีนไปสู่อาเซียนได้ และนอกจากประเด็นทางด้านการค้าแล้วไทย-จีนยังมีความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเน้นเด่นชัดทางด้านพลังงานทดแทน ซึ่งจีนมีความโดเด่นทางนี้ และก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้และงานวิจัยระหว่างกัน” ศ.นพ.สุทธิพรกล่าว