“พรชัย รุจิประภา” ปลัด ก.วิทย์เผยต้องปรับโครงสร้างภายในกระทรวง ทำวิจัยตอบโจทย์และประสานงานหน่วยงานอื่นมากขึ้น พร้อมรือหน่วยงานประสานงานระหว่างประเทศและเตรียมเปิดสำนักงานใหม่ที่ปักกิ่ง รวมทั้งตั้งหน่วยงานดูแลการทำงานระดับภูมิภาคจากเดิมที่ฝากหน้าที่ไว้กับมหาวิทยาลัยและรองผู้ว่าจังหวัด
ดร.พรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ และผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องปรับโครงสร้างภายใน เพราะไม่มีการปรับมานานมากแล้ว อีกทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำงานตามลำพังได้ ซึ่งงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ถือเป็น “ยาดำ” ที่ต้องแทรกอยู่ในทุกภาคการผลิต แต่ที่ผ่านมาทางกระทรวงเองไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวเท่าที่ควร ทำให้หน่วยงานอื่นๆ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ต้องทำวิจัยเอง จึงทำให้เกิดการทำงานซ้ำซ้อน และอีกปัญหาคืองานวิจัยของกระทรวงที่ทำแล้วไม่มีใครเอาใช้
“เป็นกระทรวงตลกที่สุด มีแค่ 3 กรม แม้กระทั่งหน่วยงานทางด้านการวางแผนก็ไปเป็นองค์กรอิสระ” ดร.พรชัยอดีตปลัดกระทรวงพลังงานให้ความเห็น ทั้งนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยหน่วยงานระดับ 3 หน่วยงาน คือ กรมวิทยาศาสตร์บริการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลทั้งหมด 13 หน่วยงาน เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งทำหน้าที่ในการวางนโยบายของกระทรวง เป็นต้น
ดร.พรชัยกล่าวถึงการทำงานในฐานะปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ว่าได้ประสานงานกับปลัดกระทรวง โดยยกตัวอย่างงานวิจัยงานวิจัยข้าวที่ต้องร่วมมือกัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ต้องการข้าวหลากหลายคุณภาพเพื่อตอบสนองลูกค้าต่างประเทศที่มีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องไปพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ได้ตามความต้องการดังกล่าว หรือกระทรวงอุตสาหกรรมต้องการข้าวที่สีได้โดยไม่แตกหักง่าย ทางกระทรวงอุตสาหกรรมต้องกลับไปออกแบบโรงสีให้สอดคล้องความต้องการดังกล่าว เช่นเดียวกับกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องกลับไปพัฒนาพันธุ์ข้าว ส่วนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมข้าวก็ต้องพัฒนาพันธุ์เพื่อให้กระทรวงเกษตรนำไปทดสอบพันธุ์ข้าวต่อไป เป็นต้น
ทั้งนี้ ดร.พรชัยกล่าวว่าสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่คือฟื้นหน่วยงานประสานงานต่างประเทศที่เคยมีขึ้นมาใหม่ ซึ่งอยู่ที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียม และกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ พร้อมกันนี้จะเปิดหน่วยประสานงานขึ้นอีกแห่งที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงการตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลการทำงนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ในระดับภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงวิทยาศาสตร์มีงานในระดับภูมิภาคแต่ภาคการดูแลไว้กับมหาวิทยาลัยและรองผู้ว่าจังหวัด โดยจะเริ่ม 4 แห่งคือ ภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น ภาคใต้ที่ จ.สงขลา ส่วนภาคกลางกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ
