ความพยายามลบความทรงจำในอดีตผ่านลายเส้นเรื่อง "Brain Eyes โกงสมองลวงความจำ" ผลงาน นร.เตรียมอุดมฯ พัฒนาการ กับการใช้เครื่องย้อนเวลาแก้ไขข้อผิดพลาดที่ผ่านมาใน "บริษัทเปลี่ยนแปลง" ฝีมือวาดของ นศ.เอแบค คว้าแชมป์การ์ตูนไซไฟไทยปีที่ 2 ผู้ชนะเผย การ์ตูนให้แนวคิด จินตนาการ และองค์ความรู้ใหม่ เหมาะกับทุกวัย ขณะที่ หน. โครงการฯ แนะไซไฟที่ดีต้องมีจินตนาการบนหลักวิทยาศาสตร์
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ได้จัดงาน “ประกาศรางวัลการ์ตูนไซไฟไทยก้าวไกลสู่สากล ครั้งที่ 2” เมื่อวันที่ 30 มี.ค.54 ณ เวทีกลาง ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 39 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้ติดตามการประกาศรางวัลในครั้งนี้ด้วย
สำหรับผลการแข่งขัน รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ ทีม Firered Maximum จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อันดับ 2 ทีมแว่นดำ Y จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และอันดับ 3 ทีม IBAA จาก โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์
ส่วนระดับอุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม LAMB จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญอันดับ 2 ทีม TYPE-B จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอันดับ 3 ทีม CANDY MAN จากมหาวิทยาลัยบูรพา โดยทีมที่ชนะเลิศทั้ง 2 ระดับได้เงินรางวัล 30,000 บาท ที่ 2 จำนวน 20,000บบาท ที่ 3 จำนวน 15,000 และมีรางวัลชมเชยอีกระดับละ 3 ทีมได้รับเงินรางวัล 8,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณสำหรับทุกทีม
นายณัชพัฒน์ แจ่มทักษา ชั้น ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ หัวหน้าทีม Firered Maximum กล่าวว่า เขานั้นได้เขียนการ์ตูนไซไฟไทยเรื่อง “BRAIN EYES โกงสมองลวงความทรงจำ” เป็นแนวไซไฟ ปรัชญา ดราม่า ที่เน้นถึงความรู้สึกที่ยึดติดกับความทรงจำที่โหดร้ายในอดีต และต้องทำอย่างไรถึงจะลืมความทรงจำนั้นได้
นายณัชพัฒน์บอกว่า เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่วาดยาก แต่ไม่ยากเกินความสามารถ สำหรับคนที่มีพื้นฐานการวาดรูปอยู่แล้ว และอยากให้เมืองไทยสร้างการ์ตูนไซไฟในรูปแบบแนวคิดที่สุดโต่ง ให้นำความคิดของตัวเองผสมกับวิทยาศาสตร์ให้กลมกลืนที่สุด เพื่อให้ได้ความรู้ สาระ รวมถึงได้รับความสนุกสนานอีกด้วย
“ทุกคนอาจมองว่าการ์ตูนนั้นมีไว้สำหรับเด็ก แต่ว่าภายในเบื้องลึกของจิตใจทุกคนนั้น ย่อมมีตัวตนของวัยเด็กในอดีตอยู่เสมอ ดังนั้นการ์ตูนไม่ได้สร้างสรรค์มาเพื่อวัยใดวัยหนึ่ง แต่สร้างสรรค์มาเพื่อทุกคนต่างหาก” นายณัชพัฒน์แสดงความเห็น
ทางด้านทีมชนะเลิศในระดับอุดมศึกษา นายชานน สันติอัศวราภรณ์ ชั้นปี 2 ภาควิชานิเทศน์ศิลป์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) หัวหน้าทีม LAMB กล่าวว่า การ์ตูนที่ส่งประกวดคือเรื่อง “บริษัทเปลี่ยนแปลง” ได้แรงบันดาลใจจากตัวเอง เป็นเรื่องของความรู้สึก จะเน้นหนักของตัวละครหลักที่ชื่อ "ส้ม" เด็กสาวคนหนึ่ง ที่ต้องการฆ่าตัวตาย พ่อของส้มจึงไปหานักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ "บริษัทเปลี่ยนแปลง" เพื่อให้ช่วยลูกสาวของเขาย้อนเวลากลับมา เพราะนักวิทยาศาสตร์คนนี้ประดิษฐ์เครื่องย้อนเวลาได้
นายชานน ยังบอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ด้วยว่า การ์ตูนไซไฟที่เขาชอบเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคตของมนุษย์ ที่เริ่มสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปเรื่อยๆ ซึ่งอวัยวะของคนเริ่มถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องจักร สามารถทำโน่นทำนี่ได้ แต่ในทางกลับกันความเป็นมนุษย์ก็จะลดลงไปทุกที
"ผมว่าการ์ตูนทุกรูปแบบนั้น เป็นสื่ออย่างหนึ่งเหมือนทีวี เหมือนหนัง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยต่อยอดความคิดให้ทุกคน โดยเฉพาะการ์ตูนไซไฟที่จะให้จินตนาการด้วยหลักเหตุและผลค่อนข้างเยอะ และสามารถได้ความรู้ แนวคิดใหม่จากการอ่านการ์ตูนประเภทนี้อีกด้วย" นายชานน ให้ความเห็น
ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน ผอ.ฝ่ายสิ่งพิมพ์และสื่อสารวิทยาศาสตร์ สวทช. หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการประกวดการ์ตูนไซไฟนั้น เพราะมีความคิดที่จะเปลี่ยนประเทศไทยด้วยกระบวนการของหลักการและเหตุผล ต้องการให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความรู้ และมองว่าเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่เป็นกำลังของประเทศชาติ จึงจำเป็นต้องวางพื้นฐาน วางหลักของการมีเหตุและผลต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพในการค้นหาข้อมูลเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับสิ่งต่างๆ ได้
“เฉกเช่นการ์ตูนไซไฟ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านของการส่งเสริม การสร้างจินตนาการบนหลักของเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้หาข้อมูล มีหลักการรองรับ ไม่ใช่เอาเรื่องเพ้อฝันมาวาดเป็นการ์ตูนเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งถือว่าไม่ใช่หลักของการสร้างการ์ตูนไซไฟ” ดร.กฤษฎ์ชัยกล่าว
ไม่ต่างกับ ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ รอง ผอ.ฝ่ายสิ่งพิมพ์และสื่อสารวิทยาศาสตร์ สวทช. ที่มองว่าธรรมชาตินั้น เด็กชอบอ่านการ์ตูน อย่างการ์ตูนญี่ปุ่นเล่าเรื่องราว "เตาปฏิกรณ์" เปรียบเทียบกับ "อึและตด" จะเห็นว่าพลังของการ์ตูน ทำให้อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายมาก สามารถจับจับอารมณ์ของคนได้
“การประกวดการ์ตูนไซไฟไทยนั้น จึงต้องการให้เด็กเห็นการ์ตูนเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ จินตนาการได้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนสังคมทั้งเชิงวิชาการ และเชิงความรู้ด้วย” ดร.นำชัย กล่าว พร้อมทัั้งทิ้งท้ายด้วยว่า จากผลงานการส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ถือว่าศักยภาพของเด็กไทยนั้น สามารถพัฒนาต่อยอดฝีมือไปยังระดับนานาชาติได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การ์ตูนไซไฟที่ได้รับรางวัลทั้ง 6 เรื่อง กำลังอยู่ในระหว่างจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม พร้อมวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำเร็วๆ นี้