xs
xsm
sm
md
lg

อิทธิพลความคิดของ Darwin ต่อสังคมปัจจุบัน

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

Charles Darwin
สังคมคนปัจจุบันแตกต่างจากสังคมอดีตเมื่อ 200 ปีก่อนมาก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ ปัจจุบันเรามีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าในอดีต เพราะโลกมีนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ เช่น Einstein, Pasteur, Edison, Heisenberg, Watson กับ Crick เป็นต้น และบุคคลเหล่านี้ได้ปฏิรูปกระบวนการคิด และได้สร้างความรู้อย่างมโหฬาร เช่น Einstein ได้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพทั้งพิเศษและทั่วไป ที่ทำให้รู้ว่าเอกภพ มี 4 มิติ และมีกำเนิดจากการระเบิดที่ยิ่งใหญ่ ส่วน Heisenberg ก็ได้เสนอทฤษฎีควอนตัมที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ในระบบที่มีขนาดเล็กระดับอะตอมและนิวเคลียสได้ แต่คนที่จะเข้าใจทฤษฎีของ Einstein หรือ Heisenberg ได้เป็นอย่างดีต้องเก่ง และเชี่ยวชาญคณิตศาสตร์

ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่า คนทั่วไปแทบไม่เข้าใจ Einstein หรือ Heisenberg เลย แต่สำหรับกรณีของ Charles Darwin นั้น แตกต่างไปมาก เพราะชาวบ้านแทบทุกคนสามารถเข้าใจผลงานที่ Darwin สร้าง อันได้แก่ วิทยาการด้านชีววิทยาวิวัฒนาการ ที่ชี้ให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ (species) ต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ตามกาลเวลา และจะแตกแขนงกลายพันธุ์ออกไป จนทุกวันนี้นักชีววิทยาเชื่อว่าสรรพสิ่งบนโลกมาจาก ต้นกำเนิดเดียวกัน และกลไกที่ทำให้เกิดวิวัฒนาการเช่นนี้ คือกระบวนการเลือกสรรโดยธรรมชาติ

นี่ก็คือปรัชญาที่สำคัญของวิชาชีววิทยาวิวัฒนาการของ Charles Darwin ซึ่งแตกต่างจากฟิสิกส์และเคมีตรงที่มีประวัติศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง และใช้จินตนาการถึงเหตุการณ์ที่ได้เคยอุบัติในอดีต แล้วใช้หลักของวิวัฒนาการมาอธิบายเหตุการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น การอธิบายสาเหตุ การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อปลายยุค Cretaceous ว่าเกิดจากการที่โลกถูกอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชน และความแปรปรวนของสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรงทำให้ไดโนเสาร์ล้มตาย เหตุการณ์นี้จึงเปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้เข้ามายึดครองโลกในที่สุด ทฤษฎีวิวัฒนาการนี้จึงเชื่อมโยงความรู้วิทยาศาสตร์กับประวัติศาสตร์และมนุษยศาสตร์ในลักษณะที่เราไม่พบเห็นในทฤษฎีวิทยาศาสตร์อื่นๆ

สำหรับการค้นพบกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติของ Wallace กับ Darwin นั้น ก็เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพราะสามารถใช้อธิบายทิศการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิต ให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ แต่คำถามก็จะตามมาว่า ใครคือผู้เหมาะสมที่สุด และหากจะตอบว่า คนที่เหมาะสมที่สุดคือคนที่อยู่รอด และคนที่อยู่รอดคือคนที่เหมาะสมที่สุด เพราะนี่คือการตอบแบบพายเรือในอ่าง และเป็นคำตอบที่ไม่สมบูรณ์ เพราะการอยู่รอด บางครั้งก็อาศัยโชค และคนที่ดูฟิตที่สุด บางครั้งก็ต้องตายไป เพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์แวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ทัน ดังนั้น การกล่าวสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ จึงเกิดมีการเรียงลำดับสาเหตุที่เป็นขั้นตอนและในการประยุกต์ใช้หลักการวิวัฒนาการนี้ จำต้องใช้ประชากรจำนวนมากที่หลากหลาย คือแตกต่างกัน แล้วเราก็จะเห็นว่าตัวที่อ่อนแอจะถูกกำจัดไปในที่สุด

ความแตกต่างอีกประการหนึ่งของทฤษฎีวิวัฒนาการกับทฤษฎีฟิสิกส์คือ ในวิชาฟิสิกส์ เรามีกฎ เช่น กฎการเคลื่อนที่ กฎสมดุล ฯลฯ แล้วกฎต่างๆ ถูกนำมาประมวลเป็นทฤษฎี เช่น กฎการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ได้นำ Newton ไปสู่ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง แต่ทฤษฎีวิวัฒนาการของ Darwin ไม่สามารถเขียนเป็นสูตรคณิตศาสตร์ หรือเป็นกฎที่ทำนายเหตุการณ์เชิงปริมาณได้

ประวัติศาสตร์ได้จารึกว่าสังคมยุโรปเมื่อ 200 ปีก่อน ประชาชนนับถือคริสตศาสนาอย่างเคร่งครัด และทุกคนเชื่อว่า พระเจ้าทรงสร้างเอกภพและสรรพสิ่ง รวมถึงมนุษย์ด้วย โดยใช้เวลาเพียง 6 วัน แต่ Darwin ได้กำจัดความคิดเรื่องการที่พระเจ้า ผู้ทรงอภินิหารต่างๆ โดย Darwin ได้ชี้ให้เห็นว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการสามารถอธิบายการอุบัติของความหลากหลายและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตได้ นั่นคือเอกภพไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้า และนี่คือการให้ความรู้และความเข้าใจที่ทรงพลังมาก ว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงเชิงชีววิทยามาจากยีน (gene) และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่มาจากพระเจ้า และความหลากหลายเป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่ทำให้คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นคนฝรั่ง นิโกร เอเชีย หรือแอฟริกัน ทุกคนก็เป็นสัตว์สปีชีส์เดียวกัน คือ Homo sapiens ดังนั้นการเหยียดผิวจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีในสังคมโลก

อีกทั้งเป็นเรื่องปกติที่คนต่างผิวสามารถแต่งงานกันได้ ในขณะที่ในวิชาคณิตศาสตร์ สามเหลี่ยมใดๆ ก็เป็นกลุ่มรูปทรงชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากสี่เหลี่ยมหรือห้าเหลี่ยมอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเราจะไม่มีวันมีรูป 3.5 เหลี่ยม หรือ 4.2 เหลี่ยม ที่เกิดจากการผสมระหว่าง 3 กับ 4 เหลี่ยม หรือ 4 กับ 5 เหลี่ยมเลย

สำหรับประเด็นความคล้ายคลึงระหว่างลัทธิ Darwin (Darwinism) กับความรู้ฟิสิกส์ยุคใหม่คือ Darwin ยอมรับเรื่องของโอกาสและการสุ่ม (randomness) ที่เกิดในกระบวนการวิวัฒนาการเช่นเดียวกับหลักของฟิสิกส์ควอนตัม ดังนั้นการทำนายกระบวนการวิวัฒนาการอย่างมั่นใจ 100% ซึ่งจะเกิดในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เหมือนกับในวิชาฟิสิกส์ควอนตัม

ในระยะแรก ที่ Darwin เสนอทฤษฎีวิวัฒนาการนั้น บรรดาปราชญ์ได้พากันต่อต้านเพราะต่างก็เข้าใจว่านอกจาก Darwin จะกำจัดพระเจ้าออกไปแล้ว ผู้รู้เหล่านี้ยังเชื่ออีกว่า หลักการของวิวัฒนาการ Darwin ได้ทำให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น เพราะทุกคนจะคิดเอาตัวรอดโดยไม่คำนึงถึงคนอื่น แล้วนี่จะเป็นวิธีสร้างหรือนำสังคมให้มีจริยธรรมที่ดีได้อย่างไร แต่เมื่อถึงปัจจุบันนักชีววิทยารู้แล้วว่าหลักการของวิวัฒนาการ ของ Darwin ใช้ได้กับกลุ่มคน หาได้ใช้กับปัจเจกบุคคลไม่ เพราะความจริงมีว่าถ้าสมาชิกของกลุ่มร่วมมือกัน กลุ่มนั้นก็อยู่ได้ และนันหมายความว่าตนก็อยู่รอดได้ด้วย หลัก altruism ของ Darwin จึงถูกนำมาอธิบายพฤติกรรมของสัตว์สังคม เช่น ปลา ผึ้ง และคนได้

แม้มนุษย์ตามความเห็นของ Aristotle, Descartes, และ Kant จะเป็นสัตว์ประเสริฐที่แตกต่าง จากสัตว์อื่น แต่ Thomas Huxley ก็ได้แสดงให้เห็นว่าในอดีตที่ผ่านมานานแล้ว คนกับลิงไม่มีหาง (ape) เคยมีบรรพบุรุษร่วมกัน ดังนั้นคนจึงมิได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้อีกต่อไป แต่กระนั้นคนก็ยังเป็นสัตว์พิเศษ เพราะมีสติปัญญาสูงยิ่งกว่าสัตว์อื่นทั้งหมด อีกทั้งมีภาษา จริยธรรมและความสามารถทั้งสร้างอารยธรรมได้ แต่คนคงไม่วิวัฒนาการไปสู่ "ความสมบูรณ์" ใดๆ เพราะคนจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ตลอดไป

ความเชื่อนี้เป็นความรู้ ณ วันนี้ที่เราได้จากความคิดเรื่องวิวัฒนาการของ Darwin ที่ได้เคยแถลงไว้เมื่อ 150 ปีก่อนครับ

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.
เรือ Beagle ที่ Darwin ใช้ในการสำรวจโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น