แค่ลูกโป่งลูกเดียว ใครจะเชื่อว่าใช้เป็นสื่อสอนให้เด็กรู้จักการทำงานของกล่องเสียงในลำคอได้ แต่ "โจอาคิม เฮกเกอร์" วิศวกรที่ผันตัวเองมาจัดรายงานวิทยุสำหรับเด็กได้ทำให้เห็นว่า ของง่ายๆ ก็ใช้เรียนรู้วิทยาศาสตร์รอบตัวได้
ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 37 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค.- 6 เม.ย.52 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โออาคิม เฮกเกอร์ (Joachim Hecker) นักจัดรายการวิทยุสำหรับเด็กชาวเยอรมัน ได้เดินทางไกล มาเป็นวิทยากรในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "เรียนรู้วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวันแบบบูรณาการจากการทดลอง” ให้กับครู-อาจารย์และผู้สนใจเข้ารับอบรมราว 100 คน
หนึ่งในการทดลองที่ เฮกเกอร์ อดีตวิศวกรที่ผันตัวเองมาทำงานทางด้านหนังสือพิมพ์และรายการวิทยุ ที่สอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก ได้ยกตัวอย่าง คือการทดลองเป่าลูกโป่งแล้วค่อยๆ ปล่อยลมออก และให้เกิดเสียงระหว่างปล่อยลมด้วย ซึ่งเขาบอกว่าการทดลองดังกล่าวแม้จะสร้างเสียงอันน่ารำคาญสำหรับผูใหญ่ แต่สำหรับเด็กแล้ว การได้เสียงดังเป็นเรื่องสนุก และภายใต้ความสนุกนั้นได้ทำให้เด็กได้เรียนรู้
สิ่งที่เด็กจะได้เรียนรู้จากการปล่อยลมออกจากลูกโป่งคือ เด็กจะสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ซึ่งจุดนี้เองเราสามารถนำไปเชื่อมโยงกับการสอนเกี่ยวกับร่างกายของเราได้ โดยลูกโป่ง ก็เปรียบเสมือนกล่องเสียงในลำคอที่สั่นสะเทือนได้เมื่อเราเปล่งเสียง และเรายังให้เด็กสัมผัสดูความแตกต่างระหว่างการเปล่งเสียงสูงและเสียงต่ำได้
เฮกเกอร์บอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า เทคนิคในการสอนวิทยาศาสตร์ที่เขานำมาใช้กับเด็กๆ นั้น ส่วนหนึ่งนำมาจากประสบการณ์ที่เขาเคยได้เข้าค่ายแข่งขันทางด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีการทดลองที่น่าสนใจและนำมาปรับใช้ได้
เขาบอกด้วยว่า สิ่งที่เขาต้องการคือ แสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก และรอบตัวเราล้วนเต็มไปด้วยการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ อาทิ รถยนต์ รลเมล์ เตาไมโครเวฟ ซึ่งการจะสอนให้เด็กเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ จะต้องทำให้เด็กได้เห็นผลของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเด็ก
พร้อมกันนี้ เขาได้ยกตัวอย่างการเติมน้ำในลูกโป่งและมัดปลายให้แน่น จากนั้นนำไปใส่ในเตาในไมโครเวฟ แล้วดูผลการทดลองที่เกิดขึ้นเมื่อให้เตาไมโครเวฟทำงาน
แม้จะไม่ได้ทำการทดลองจริง แต่เฮกเกอร์บอกกับเรา ถึงผลการทดลองที่จะเกิดขึ้นว่า ลูกโป่งจะไม่ระเบิด หากแต่จะพองออก ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจะทำให้เด็กตื่นเต้น และนำไปสู่การอธิบายว่า ผลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะ คลื่นไมโครเวฟทำให้น้ำร้อนขึ้นและกลายเป็นไอ จึงทำให้ลูกโป่งขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อลองจับที่ปลายลูกโป่งซึ่งผูกปมไว้ พบว่าบริเวณดังกล่าวไม่ร้อนเท่ากับบริเวณที่มีน้ำ ทั้งนี้เป็นเพราะไมโครเวฟไม่ทำให้พลาสติกร้อน เหมือนเราอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟ ซึ่งได้อาหารที่ร้อนและภาชนะไม่ร้อน
ปัจจุบันเฮกเกอร์ในวัย 45 เป็นบรรณาธิการและนักหนังสือพิมพ์ด้านวิทยาศาสตร์แห่งสถานีวิทยุ WDR เยอรมนี ก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นวิศวกร โดยจบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยดาร์มสตัดท์ (Darmstudt) เยอรมนี และผันมาทำงานทางด้านสื่อหลังจากฝึกงานในสำนักหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง และเข้าทำงานในสถานีวิทยุแห่งนี้เมื่อปี 2541
เขามีรายการวิทยุสำหรับเด็กและเยาวชน "ลิลีพุซ" (LILIPUZ – Radio for Children) ในชื่อซีรีส์ "เฮกเกอร์ส เฮกเซนคูเช" (Heckers Hexenkuche – Experiments on the radio for children) และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการทดลอง 3 เล่ม คือ The children Brockhaus. Experiments, The Children Brockhaus. Even more experiments และ The House of young researchers ซึ่งแปลเป็นภาษาไทย 2 เล่ม โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ในชื่อ "ทดลองวิทย์ รอบรู้ธรรมชาติ" สำหรับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เล่ม 1-2.