ASTVผู้จัดการรายวัน - 3 หน่วยงานเซ็นเอ็มโอยูโครงการ"เช็คช่วยชาติ 2,000บาท" ยันล็อตแรกออกแน่วันที่ 26 มี.ค.ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งเช็คให้สปส.และหน่วยงานราชการ ส่วนอีก 2 ล็อตตามมาติดๆ 31 มี.ค.และ 3 เม.ย.นี้ แจงผู้รับสามารถขึ้นเงินสดได้ทั้งที่สาขาแบงก์และเจ้าหน้าที่ที่ตั้งโต๊ะต่างหาก หรือใช้ซื้อสินค้ากับห้างร้านที่ร่วมรายการได้ทันที
นายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยภายหลังการลงนามกับกรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ในบันทึกข้อตกลงออก"เช็คช่วยชาติ"ว่า เช็คช่วยชาติ 2,000บาทว่า ในล็อตแรกนี้จะมีการออกเช็ค 5.9 ล้านฉบับ จากจำนวนรวม 10.5 ล้านฉบับ ซึ่งธนาคารกรุงเทพในฐานะผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินการได้จัดพิมพ์เสร็จเรียกร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งให้กับสำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดที่ห่างไกลจะได้รับเช็คอย่างช้าวันที่ 24 มี.ค. และในวันที่ 26 มี.ค.เช็คล็อตแรกก็จะพร้อมแจกจ่ายให้กับพนักงานบริษัทเอกชน และข้าราชการที่มีสิทธิ์รับเช็คทั่วประเทศ ส่วนเช็คช่วยชาติที่เหลือจะออกในล็อตต่อๆไปจะจัดส่งให้ในวันที่ 31 มี.ค. 52 และ 3 เม.ย. 52
ทั้งนี้ พนักงานเอกชน และข้าราชการที่รับเช็คช่วยชาติ สามารถนำไปทำธุรกรรมได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ธนาคารกรุงเทพ ได้อำนวยความสะดวก ในจุดใหญ่ที่มีการจ่ายเช็คช่วยชาติให้กับพนักงานเอกชน และข้าราชการ จำนวนมากๆ ธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งโต๊ะ ให้สามารถนำเช็คมาแลกเป็นเงินสดได้ทันที 2.นำเช็คช่วยชาติไปขึ้นเงินสดที่สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ และ3.นำไปซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภค ในห้างสรรสินค้า หรือร้านค้า ที่จัดแคมเปญมอบส่วนลดเป็นพิเศษ ที่ร่วมโครงการของรัฐบาล
สำหรับสภาพคล่องของธนาคารมีเพียงพอ ที่รองรับกับเช็คช่วยชาติ เนื่องจากวงเงิน 20,000 ล้านบาท คิดว่าเป็นเงินที่ไม่มาก ประกอบกับในช่วงสิ้นเดือนที่บริษัทเอกชน มีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ธนาคารได้มีการเตรียมสภาพคล่องไว้มากกว่าปกติอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติกับผู้ประกอบการรายใหญ่ จำนวน 21 ราย เพื่อผู้รับเช็คสามารถนำเช็คไปซื้อสินค้าได้ที่เครือข่าย และสาขาของผู้ประกอบการต่างๆทั่วประเทศ ประมาณ 3,146 ราย เพื่อยืนยันว่าห้างร้านต่างๆจะยินดีรับเช็คช่วยชาติ เมื่อผู้มีสิทธิจะนำไปใช้ในการชำระค่าสินค้า ประเภทอุปโภค บริโภค แม้กระทั่งนำไปชำระเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันตามปกติ
โดยผู้ประกอบการที่จับมือกับภาครัฐในเบื้องต้น จำนวน 21 ราย ได้แก่ บริษัทในเครือเซ็นทรัล 7 แห่ง เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ฟ ซี.พี.เฟรทมาร์ท บิ๊กซี แม็คโดนัล อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอล กิฟฟารีน บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้า เวิลด์ แฟร์ คาร์ฟูร์ บริษัทนานมีบุ๊คส์ บริษัทเมืองไทยประกันภัย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน องค์การค้าของคุรุสภา เคเอฟซี พิซซ่าฮัท บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด บริษัท ไดมอนด์ ไชน์ ฮอลิเดย์ จำกัด บริษัทไทยสกายลาร์ค จำกัด เทสโก้โลตัส บริษัท ลีน่า คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด และบริษัทเอเชีย ไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น
นายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยภายหลังการลงนามกับกรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ในบันทึกข้อตกลงออก"เช็คช่วยชาติ"ว่า เช็คช่วยชาติ 2,000บาทว่า ในล็อตแรกนี้จะมีการออกเช็ค 5.9 ล้านฉบับ จากจำนวนรวม 10.5 ล้านฉบับ ซึ่งธนาคารกรุงเทพในฐานะผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินการได้จัดพิมพ์เสร็จเรียกร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งให้กับสำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดที่ห่างไกลจะได้รับเช็คอย่างช้าวันที่ 24 มี.ค. และในวันที่ 26 มี.ค.เช็คล็อตแรกก็จะพร้อมแจกจ่ายให้กับพนักงานบริษัทเอกชน และข้าราชการที่มีสิทธิ์รับเช็คทั่วประเทศ ส่วนเช็คช่วยชาติที่เหลือจะออกในล็อตต่อๆไปจะจัดส่งให้ในวันที่ 31 มี.ค. 52 และ 3 เม.ย. 52
ทั้งนี้ พนักงานเอกชน และข้าราชการที่รับเช็คช่วยชาติ สามารถนำไปทำธุรกรรมได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ธนาคารกรุงเทพ ได้อำนวยความสะดวก ในจุดใหญ่ที่มีการจ่ายเช็คช่วยชาติให้กับพนักงานเอกชน และข้าราชการ จำนวนมากๆ ธนาคารได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งโต๊ะ ให้สามารถนำเช็คมาแลกเป็นเงินสดได้ทันที 2.นำเช็คช่วยชาติไปขึ้นเงินสดที่สาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ และ3.นำไปซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภค ในห้างสรรสินค้า หรือร้านค้า ที่จัดแคมเปญมอบส่วนลดเป็นพิเศษ ที่ร่วมโครงการของรัฐบาล
สำหรับสภาพคล่องของธนาคารมีเพียงพอ ที่รองรับกับเช็คช่วยชาติ เนื่องจากวงเงิน 20,000 ล้านบาท คิดว่าเป็นเงินที่ไม่มาก ประกอบกับในช่วงสิ้นเดือนที่บริษัทเอกชน มีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ธนาคารได้มีการเตรียมสภาพคล่องไว้มากกว่าปกติอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติกับผู้ประกอบการรายใหญ่ จำนวน 21 ราย เพื่อผู้รับเช็คสามารถนำเช็คไปซื้อสินค้าได้ที่เครือข่าย และสาขาของผู้ประกอบการต่างๆทั่วประเทศ ประมาณ 3,146 ราย เพื่อยืนยันว่าห้างร้านต่างๆจะยินดีรับเช็คช่วยชาติ เมื่อผู้มีสิทธิจะนำไปใช้ในการชำระค่าสินค้า ประเภทอุปโภค บริโภค แม้กระทั่งนำไปชำระเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันตามปกติ
โดยผู้ประกอบการที่จับมือกับภาครัฐในเบื้องต้น จำนวน 21 ราย ได้แก่ บริษัทในเครือเซ็นทรัล 7 แห่ง เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ฟ ซี.พี.เฟรทมาร์ท บิ๊กซี แม็คโดนัล อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอล กิฟฟารีน บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้า เวิลด์ แฟร์ คาร์ฟูร์ บริษัทนานมีบุ๊คส์ บริษัทเมืองไทยประกันภัย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน องค์การค้าของคุรุสภา เคเอฟซี พิซซ่าฮัท บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด บริษัท ไดมอนด์ ไชน์ ฮอลิเดย์ จำกัด บริษัทไทยสกายลาร์ค จำกัด เทสโก้โลตัส บริษัท ลีน่า คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด และบริษัทเอเชีย ไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น
