นักวิจัยจุฬาฯ หยิบพืชสมุนไพรไทย "ดายขัด" มาศึกษา พบมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ช่วยต้านการอักเสบได้ โดยไม่กัดกระเพาะ และไม่ก่อให้เกิดพิษใดๆ เตรียมขออนุญาตวิจัยในผู้ป่วย หวังผลักดันเป็นยาต้านเบาหวาน ช่วยผู้ป่วยไม่ต้องตัดขา และลดนำเข้ายาต่างประเทศ
รศ.ดร.สุกัญญา เจษฎานนท์ นักวิจัยและอาจารย์พิเศษ ภาควิชาชีวเคมี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเสวนาเรื่อง "สมุนไพรไทย : แก้โรคร้ายได้จริงหรือ" ในงานสัมมนาการเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านการพัฒนาสมุนไพรสู่ระดับอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เมื่อวันที่ 19 มี.ค.52 ที่ผ่านมา โดยบอกว่าผลการวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่าสมุนไพร "ดายขัด" สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและยืดอายุของหนูที่เป็นเบาหวานได้
นักวิจัยกล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ว่า ดายขัด (ชื่อวิทยาศาสตร์ Malvastrum coromandelianum Garcke) หรือหญ้าเทวดาหรือหญ้ากระดุมทอง มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยได้ทดลองให้สารสกัดจากต้นดายขัดแก่หนูที่เหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานในปริมาณ 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว ทุกๆวัน ต่อเนื่องกันนาน 4 เดือน
พบว่าหนูในกลุ่มที่ได้รับสารสกัดต้นดายขัดมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าและมีความผิดปรกติของไตน้อยกว่าหนูในกลุ่มที่ได้รับอินซูลิน 5 ยูนิตต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว อย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าสารสกัดจากดายขัดสามารถรักษาอาการเบาหวานได้ รวมทั้งมีฤทธิ์ช่วยในการสมานแผลด้วย ต้านการอักเสบได้โดยที่ไม่กัดกระเพาะเหมือนยาต้านการอักเสบทั่วไป และอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะไตวายจากเบาหวานได้
ทั้งนี้ นักวิจัยเผยเหตุที่สนใจศึกษาการต้านเบาหวานด้วยต้นดายขัดว่า ได้ข้อมูลมาว่ามีผู้ป่วยเบาหวานรายหนึ่งอาการรุนแรงมากและอาจต้องตัดขาในไม่ช้า แต่ญาติของผู้ป่วยดังกล่าวนำสมุนไพรดายขัดมาต้มให้กิน อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ต้องถูกตัดขาแล้ว ประกอบกับมีการจำหน่ายดายขัดแห้งในลักษณะให้นำไปต้มเป็นชาสำหรับดื่มมานานแล้ว จึงทำให้ง่ายต่อการนำตัวอย่างมาศึกษาวิจัย
ส่วนในเรื่องของความเป็นพิษนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พิสูจน์โดยป้อนสารสกัดดังกล่าวในหนูทดลองในปริมาณ 200-400 เท่าของปริมาณการใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนู ต่อเนื่องเป็นเวลานาน 6 เดือน ก็ไม่พบว่าก่อให้เกิดพิษใดๆ ต่อร่างกายของหนู เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสารสกัดดังกล่าวมีความปลอดภัยและไม่เป็นพิษต่อการนำไปใช้เป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาสารสกัดดายขัดให้อยู่ในรูปของยาเม็ด โดยมีการควบคุมปริมาณของสารสำคัญ เพื่อที่จะทดสอบต่อไปในคน โดยอยู่ระหว่างขออนุญาตและขอทุนวิจัย
รศ.ดร.สุกัญญา กล่าวว่า หากดายขัดสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้จริง ก็จะส่งเสริมให้เกิดการนำไปใช้เป็นยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่อไป ซึ่งอาจจะสามารถช่วยผู้ป่วยเบาหวานได้โดยไม่ต้องพึ่งอินซูลิน อีกทั้งยังจะช่วยลดการนำเข้ายาราคาแพงจากต่างประเทศ
ด้าน รศ.ดร.บุญยงค์ ตันติสิระ นักวิจัยภาควิชาเภสัชวิทยาและสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมในงานวิจัยดังกล่าวด้วย กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนายาสมุนไพรไปสู่ระดับอุตสาหกรรมมีขั้นตอนของมันเอง เราไม่สามารถจะข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปได้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เราไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนและถูกต้องได้
เรื่องของความเป็นพิษสำคัญมากที่สุด ซึ่งหากไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่นำไปผลิตใช้แพร่หลายแล้วมาพบภายหลัง จะเป็นการเสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกของผู้ใช้ด้วย ส่วนการควบคุมปริมาณสารสำคัญก็สำคัญมากเช่นกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้.