xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ยก “มหิดลวิทย์” โรงเรียนตัวอย่างส่งเสริมคนเก่งวิทย์แต่วัยเยาว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (ภาพจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ)
“อภิสิทธิ์” เปิดงาน “118 ปีกรมวิทย์บริการ” ยก “มหิดลวิทย์” ตัวอย่างรูปธรรมในการส่งเสริมคนเก่งวิทย์แต่วัยเยาว์ แต่ยังต้องมีการสานต่อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาทุ่มเทเพื่องานวิทยาศาสตร์ รับโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เอื้อให้คนเก่งหันมาทำงานด้านนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน “118 ปี ศาลาแยกธาตุ-กรมวิทยาศาสตร์บริการ” เมื่อวันที่ 29 พ.ย.52 ณ อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ พร้อมกล่าวเปิดงานว่า การวางแผนพัฒนาประเทศจำเป็นต้องเข้าใจสภาวะแวดล้อมของโลกเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาไทยก็ทำได้ดี แต่ในด้านขีดความสามารถวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยมักถูกประเมินให้อยู่ในระดับต่ำอยู่ ซึ่งแม้เรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ถ้าปล่อยให้สะสมยาวนานก็จะบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

เช่นเดียวกับคำพูดของ ดร.ตั้ว พลานุกรม อธิบดีคนแรกของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ที่กล่าวไว้ว่า ชาติจะเจริญโดยไม่มีวิทยาศาสตร์เป็นหลักไม่ได้ ซึ่งการจะให้ประเทศแข่งขันอย่างยั่งยืนต้องผลักดันการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และระดมความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เศรษฐกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สนับสนุนนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายอภิสิทธิ์กล่าวภายในงานซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้ปัจจุบันเราตื่นตัวทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ไทยก็ยังถูกประเมินความสามารถด้านนี้ต่ำ จึงมีความตั้งใจที่จะยุติปัญหาดังกล่าว โดยได้พูดคุยกับ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึงการผลักดันนโนบายด้านวิทยาศาสตร์ และได้ร่างนโยบายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยตัวเอง โดยมีแนวคิดสำคัญๆ ดังนี้

ข้อแรกคือ การส่งเสริมให้คนในสังคมมีฐานความคิดวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ ฐานความคิดของสังคมยังขาดความเป็นวิทยาศาสตร์ โดยเราเห็นได้ในปรากฏการณ์และในตามข่าวต่างๆ ซึ่งแก้ได้โดยเริ่มจากการศึกษา โรงเรียน การฝึกอบรม และผ่านการสื่อสารของสื่อมวลชน ที่จะช่วยสร้างให้คนในสังคมมีฐานความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้

“ถัดมาคือการส่งเสริมความเป็นเลิศในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันเรื่องการขยายโอกาสและความเสมอภาค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการผลักดันด้านนวัตกรรมต้องส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ ยกตัวอย่างโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ซึ่งผมมีส่วนร่วมในการผลักดัน เป็นรูปธรรมของการแสวงหาคนด้านวิทยาศาสตร์ในวัยเยาว์มาส่งเสริม แต่ยังต้องสานต่อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนตัดสินใจมาทุ่มเทเพื่องานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของเรายังไม่เอื้อให้คนเก่งมาทำงานด้านนี้” นายอภิสิทธิ์ระบุ

อีกข้อคือการวิจัยและพัฒนาที่นำไปสู่การเพิ่มมูลค่า ซึ่งปัจจุบันเกิดกระบวนการที่เชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนาระหว่างนักคิดนักวิจัยและภาคเอกชนยังเกิดขึ้นน้อย โดยเรามีงานวิจัยและพัฒนาจำนวนมากแต่ไม่ได้นำไปต่อยอดสู่ภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก็มีโจทย์ที่ต้องการคำตอบจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีคนหาคำตอบให้ จึงต้องผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงของทั้ง 2 กลุ่ม นอกจากนี้การแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทยยังขาดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหา จึงเป็นปัญหาด้านแรงจูงใจให้คนหันมาวิจัยและพัฒนา จึงต้องมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและคุ้มครองการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

“หากทำได้จะทำให้เกิดแรงจูงใจนักคิดที่มีจำนวนมาก และผลักดันให้วิทยาศาสตร์เป็นรากฐานของประเทศ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้าน ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงการสนองนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า ก่อนหน้านี้ได้เผยถึงนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไปแล้วในช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ การผลักดันในช่วงต้นๆ คือ การผลักดันผลงานวิจัยสู่ชุมชน โดยต้องเป็นงานที่ทำได้เร็วและอยู่ระหว่างการผลักดัน ทั้งนี้ มีโครงการสร้างหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้นแบบ โดยภายในเดือนนี้จะได้คัดเลือกหมู่บ้าน 1 แห่งขึ้นมาเป็นต้นแบบก่อนขยายเป็น 9 หมู่บ้าน

“เราทำ 1 หมู่บ้านก่อนเพื่อเป็นการก้าวอย่างเข้มแข็งและมั่นคง โดยอาจนำโรงไฟฟ้าชีวมวลลงไปให้คนในหมู่บ้านได้มีไฟฟ้าใช้ในราคาถูก เมื่อเหลือก็ขายเข้ากริดการไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะจัดเวทีเชื่อมโยงนักวิทย์กับภาคเอกชน เพื่อดูว่าภาคเอกชนมีความต้องการอย่างไร และนักวิทย์ก็จะเสนอว่ามีงานวิจัยอะไรบ้างที่จะตอบสนองแก่ภาคเอกชนได้” ดร.คุณหญิงกัลยากล่าว

สำหรับงาน “118 ปี ศาลาแยกธาตุ-กรมวิทยาศาสตร์บริการ” จัดขึ้นในโอกาสคล้ายวันสถาปนากรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยจัดระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค.52 ณ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ภายในงานมีนิทรรศการ การสัมมนาเชิงวิชาการ การบรรยายและการเสวนา อาทิ เสวนาเรื่อง “ติดปีกนักวิเคราะห์ สู่โลกอุตสาหกรรม” ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “วิทยาศาสตร์เป็นรากฐานแห่งการก้าวหน้าของประชาชาติ” โดย ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการรับปรึกษาการรับสินเชื่อเพื่อการลงทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Bank)
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
นายกฯ ถ่ายรูปร่วมกับ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช (ที่ 2จากขวา) นายปฐม แหยมเกตุ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (ขวาสุด) และ ดร.สุจินดา โชติพานิช (ซ้ายสุด) ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กำลังโหลดความคิดเห็น