พ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานเที่ยวงานวันเด็กที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพอย่างคับคั่ง เด็กๆ สนุกกันใหญ่กับหลากหลายกิจกรรมความรู้ และการแสดงบนเวที "ไซน์โชว์" พร้อมด้วยการฉายดาวเรื่องพิเศษเฉพาะวันเด็ก "ดูดาวเล่านิทาน" 10 รอบ แต่หลายคนต้องผิดหวัง เพราะบัตรคิวเต็มทุกรอบ
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2552 หลายหน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปีนี้ รวมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ที่ได้จัดกิจกรรมวันเด็กขึ้นที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เอกมัย ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ก็ได้ไปร่วมสังเกตการณ์ มีผู้ใหญ่ให้ความสนใจพาลูกหลานมาเที่ยวงานหลายพันคน
นอกจากเปิดให้เด็กเข้าชมนิทรรศการถาวรฟรีตลอดวันแล้ว ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ยังเตรียมกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุกมากมาย เช่น ขุมทรัพย์แสงอาทิตย์ ที่ให้เด็กๆ ร่วมเล่นเกมไขปริศนาเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์, เส้นสายลายสัตว์น้ำ ที่ให้น้องๆได้วาดลวดลายสัตว์น้ำตามจินตนาการลงบนถุงผ้าแล้วนำกลับบ้านไปใช้แทนถุงพลาสติกกันต่อไป, การประดิษฐ์นาฬิกาแดด เป็นต้น
ด้านสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ก็มาร่วมจัดกิจกรรมให้น้องๆ ร่วมสนุกและได้ความรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ติดตัวไปด้วย อาทิ คณิตศาสตร์กับศิลปะ, พิชิตแดนคณิตศาสตร์, ล. ลิงไต่ราว, เกมบิงโกตารางธาตุ, สนุกกับโดมิโนรูปสัตว์, เกมเพื่อนฉันคือใคร, วัดแวววิทย์
ส่วนกิจกรรมไฮไลต์ของงานวันเด็กที่ท้องฟ้าจำลองในปีนี้คือการฉายดาวเรื่องพิเศษ "ดูดาวเล่านิทาน" ซึ่งเป็นเรื่องราวนิทานและตำนานเกี่ยวกับกลุ่มดาวบนท้องฟ้า ความยาว 40 นาที ที่จัดเป็นพิเศษเฉพาะวันเด็กเท่านั้น ซึ่งเด็กเข้าชมฟรี โดยพ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจเข้าคิวจองบัตรให้ลูกหลานยาวเหยียด จำนวน 10 รอบ รอบละ 370 ที่นั่ง เต็มทุกรอบ ทำให้หลายคนพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงความสามารถของเด็กๆ บนเวทีกลาง และการแสดงไซน์โชว์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานไม่น้อย และยังมีหน่วยงานเอกชนมาร่วมจัดกิจกรรมและออกร้านอีกมากมาย ซึ่งเด็กๆ ที่มาร่วมงานต่างก็สนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่ม
ด.ญ.ณัฐนรี พรมวาสน์ หรือน้องแจน อายุ 8 ปี เล่าให้ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ฟังหลังจากร่วมเล่นเกมขุมทรัพย์พลังงานแสงอาทิตย์ว่า มางานวันเด็กที่ท้องฟ้าจำลองกับคุณพ่อและญาติ ได้ร่วมเล่นเกมมาแล้วหลายกิจกรรม สนุกมาก และยังได้ความรู้ด้วย เช่น ทำให้เรารู้ว่าแสงอาทิตย์ก็มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานที่สะอาดและไม่ทำให้โลกร้อนได้ด้วย
ส่วน ด.ช.ศักดิ์สิทธิ์ พนมใส หรือน้องอั้ม อายุ 5 ปี ที่มาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่และพี่ๆ อีกหลายคนจากย่านบางนา บอกว่าสนุกมากที่ได้มาร่วมงานวันเด็กที่ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเพิ่งมาเป็นครั้งแรก โดยชอบเรื่องปลาและสัตว์น้ำมากที่สุด (นิทรรศการชุดมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ) แต่ก็เสียดายที่ไม่ได้เข้าชมการฉายดาว เพราะจองไม่ทัน
ด้าน ด.ญ.ปดิวรัดา คำจันทร์ หรือน้องดา อายุ 13 ปี ลูกพี่ลูกน้องของน้องอั้ม ซึ่งเป็นคนเสนอให้ครอบครัวพามาร่วมงานวันเด็กที่ท้องฟ้าจำลอง บอกกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่าเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน และที่เลือกมางานวันเด็กของท้องฟ้าจำลองเพราะรู้มาว่าที่นี่จัดงานวันเด็กทุกปี และมีกิจกรรมที่มีสาระและความรู้ให้ร่วมสนุกมากมาย ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง และหากมีโอกาส ก็จะมาร่วมงานวันเด็กที่นี่อีกในปีต่อๆไป