"คุณหญิงกัลยา" ฝากการบ้านเจ้าหน้าที่ ก.วิทย์ดันงานวิจัยสู่คนจน

"คุณหญิงกัลยา" เข้ากระทรวงวิทย์วันแรกฝากงานเจ้าหน้าที่ดันงานวิจัยสู่ชุมชน ช่วยเหลือคนจนผู้ด้อยโอกาส เปิดใจอยากให้ ก.วิทย์เป็นพระเอกเสียทีหลังเป็นพระรองมานาน ชี้ปัญหากระทรวงวิทย์มีผลงานเยอะ แต่คนไม่รู้จัก แย้มนโยบายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพรรคไม่มีใครคัดค้าน แต่การเตรียมความพร้อมต้องใช้เวลานานกว่า 15 ปี จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่สร้างคนหรือทำวิจัย

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นวันแรก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ธ.ค.51 โดยภายหลังจากสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเข้าห้องทำงานแล้ว ได้พบผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ได้กล่าวฝากงานแก่หน่วยงานต่างๆ ว่า อยากให้นำวิทยาศาสตร์ไปเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตคนจน ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเชื่อว่าผลงานของกระทรวงวิทย์นำไปใช้ประโยชน์ด้านเกษตร สิ่งแวดล้อม สังคม ความปลอดภัยและความมั่นคงได้

"โดยส่วนตัวชื่นชมทุกคน ทั้งนี้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าผลงานที่เราทำมาหนักจะไปสู่ประชาชนผู้ยากจนและด้อยโอกาส เรามีผลงานเยอะแต่คนยังไม่รู้จักเรา มีหลายโครงการที่เราน่าจะได้เผยแพร่แต่ก็ไม่ได้เผยแพร่ ทั้งนี้คงเป็นนิสัยของนักวิจัยที่ชอบทำงานเงียบๆ มากกว่า ทั้งนี้อยากให้เจริญรอยตามโครงการตามพระราชดำริที่มีงานวิจัยและทดลองมานับสิบๆ ปี ซึ่งจะช่วยเหลือประชาชนในชนบทได้ เรามีงานหลายด้านแต่อยากให้เน้นผลงานสู่ชนบท เชื่อว่าทุกคนทำได้" คุณหญิงกัลยากล่าว

พร้อมกันนี้รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้จัดการวิทยาศาสตร์พร้อมด้วยสื่อมวลชนอีกหลายฉบับ โดยระบุว่าปัญหาของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คือ กระทรวงมีคนเก่งเยอะแต่ผลงานยังไปไม่ถึงประชาชน ซึ่งเท่าที่คุยกับปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทราบว่ากระทรวงมีความสามารถครอบคลุมทุกด้านที่จะช่วยประเทศชาติได้ และท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจของโลก ก.วิทย์น่าจะเป็นพระเอกในการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนได้ แต่อยากให้เน้นผลงานที่ไปถึงชนบทและทำได้อย่างรวดเร็ว

"ตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็จริง แต่ก็เป็นนักการเมืองด้วย มีโอกาสได้เดินทางไปทั่วประเทศและตัวเองก็เป็นคนบ้านนอก จึงทราบถึงความขาดแคลนของคนในชนบท ดังนั้นอยากให้ ก.วิทย์เป็นพระเอกเสียที อย่างน้อยก็เป็นพระเอกของชุมชน ตอนนี้ฝากการบ้านไปให้เจ้าหน้าที่กระทรวงแล้ว ให้ช่วยคิดกันว่า จะทำอย่างไรผลงานจึงจะไปถึงประชาชนผู้ยากไร้จริงๆ" คุณหญิงกัลยากล่าว และเผยว่าจะเริ่มผลักดันผลงานวิจัยและทดลองตามโครงการพระราชดำริ ซึ่งให้ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว แต่ยังไปไม่ทั่วถึงประชาชนทั้งหมด

นอกจากนี้คุณหญิงกัลยายังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงนโยบายด้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ว่า ทางพรรคไม่มีใครคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการตัดสินใจแม้มีการคุยกันมาหลายสิบปี เนื่องจากประเด็นเหล่านี้คือ 1.คนคัดค้านเพราะยังไม่เข้าใจหรือยังไม่รู้ ซึ่งต้องให้ความรู้กันตอ่ไป 2.ต้องใช้เวลาอบรมที่คนทำงานด้านนี้อย่างน้อย 15 ปี ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะสร้างคนหรือทำวิจัย ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องเตรียมความพร้อม และถ้าพร้อมแล้วยังต้องรอคิวในการซื้อเทคโนโลยีต่อไปอีก 15 ปี

อีกทั้งนอกจากเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว ยังต้องคิดถึงพลังงานทดแทน อาทิ พลังงานลม พลังงานแดด พลังงานชีวมวล ไปควบคู่กัน ส่วนจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์อย่างไรนั้น คุณหญิงกัลยาระบุว่าทางกระทรวงได้รับไปดูแลตามกฎหมายแล้ว รวมทั้งยังเผยว่ามีแนวทางที่เพิ่มงบประมาณทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มจาก 0.26% ของจีดีพี แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่ชัดได้ เนื่องจากจะเป็นการผูกมัด