เด็กไทยไอเดียเจ๋ง พัฒนารองเท้าวัวจากยางธรรมชาติเป็นครั้งแรก หวังช่วยเกษตรกรไทย รักษาอาการเจ็บกีบในวัว ด้วยราคาสบายกระเป๋า ส่วนวัวก็สวมใส่อย่างสบายกีบ ราคาถูกกว่านำเข้าถึง 10 เท่า เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า และจะพัฒนาต่อสำหรับใช้ในสัตว์อื่นด้วย
นายเยี่ยมพล นัครามนตรี และนายสิชล ศิลปวัฒนวงศ์ นักศึกษาปี 3 ภาควิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกันพัฒนารองเท้าวัวจากยางธรรมชาติ ใช้รักษาอาการบาดเจ็บบริเวณกีบและขาของโคนม นับเป็นแห่งแรกที่ใช้วัตถุดิบจากยางธรรมชาติ ให้รองเท้าวัวมีคุณสมบัตินุ่มสบายกว่า และราคาถูกกว่าหลายเท่า
"โคนมในประเทศไทย 55% มีอาการเจ็บกีบ สาเหตุมาจากการให้อาหารเพื่อกระตุ้นให้วัวผลิตน้ำนมได้มาก ส่งผลให้เกิดกรดเกินในกระเพาะอาหาร และถูกดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือด ซึ่งจะไปมีผลต่อช่วงล่างของวัว ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณขาและกีบ โดยส่วนใหญ่จะเกิดกับกีบด้านในของขาหลัง" นายเยี่ยมพลเผยกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์
เขาให้ข้อมูลต่อว่า อีกสาเหตุหนึ่งมาจากพื้นของฟาร์มเลี้ยงวัวที่เป็นพื้นซีเมนต์ ซึ่งแข็งและไม่เหมาะสมกับธรรมชาติของวัว เมื่อวัวต้องยืนอยู่บนพื้นแข็งๆ เป็นเวลานานต่อเนื่องกัน ก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณกีบได้เช่นกัน
"ในการรักษาจะต้องใช้รองเท้าวัวมาช่วยรองกีบด้านที่ไม่เจ็บ เพื่อยกกีบวัวให้สูงขึ้น กีบที่บาดเจ็บจะได้ไม่ต้องสัมผัสกับพื้นและเชื้อโรค ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้การบาดเจ็บหายเร็วขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น" นายเยี่ยมพลบอก
"แต่ปัจจุบันประทศไทยต้องนำเข้ารองเท้าวัวจากต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งที่ผลิตจากพีวีซี หรือพอลิยูริเทน และค่อนข้างแข็ง ทั้งยังราคาแพง ตกข้างละประมาณ 1,500 บาท และต้องสั่งซื้อครั้งละมากๆ จึงมีใช้แต่เฉพาะในฟาร์มขนาดใหญ่เท่านั้น ขณะที่เกษตรกรรายย่อยไม่สามารถหาซื้อได้ ซึ่งบางรายอาจนำเศษไม้ที่มาดัดแปลงเพื่อใช้รองกีบวัวแทนรองเท้าวัว" นายสิชล แจงและบอกต่อว่าจึงเกิดแนวคิดทำรองเท้าวัวจากยางธรรมชาติ ซึ่งผลงานนี้ต่อยอดมาจากรุ่นพี่อีกทีหนึ่ง แต่เพิ่งได้ผลสำเร็จเต็มรูปแบบในปีนี้เอง
พวกเขานำน้ำยางธรรมชาตินำมาผสมกับสารชนิดอื่นๆ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ยางแข็งขึ้น และเสริมแรงให้ทนทานต่อการสึกหรอ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง โดยขึ้นรูปรองเท้าให้มีหลายขนาดให้เลือกใช้ได้เหมาะสมกับขนาดของกีบวัว
พร้อมทั้งได้พัฒนารองเท้าวัวให้เป็นระบบ 2 ความแข็งในข้างเดียว โดยแบ่งครึ่งกัน ครึ่งที่แข็งน้อยกว่าเอาไว้สำหรับรองรับส่วนหลังของกีบ ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักมากกว่า คล้ายกับส้นเท้า ทั้งนี้ก็เพื่อให้วัวรู้สึกสบายมากขึ้น ซึ่งในการวิจัยและพัฒนา ได้ทดลองใช้จริงที่ฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี
นายสิชลบอกอีกว่าขณะนี้ทางอาจารย์ที่ปรึกษามีโครงการจะสร้างโรงงานผลิตรองเท้าวัวจากยางธรรมชาติ และจะวิจัยต่อยอดเพื่อขยายขอบเขตให้ใช้ได้ในสัตว์ชนิดอื่นด้วย เช่น ม้า เพื่อลดการนำเข้ารองเท้าวัวจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เพื่อขยายรูปแบบการใช้ประโยชน์จากน้ำยางธรรมชาติที่ผลิตได้ในประเทศ ให้เกษตรกรไทยสามารถซื้อได้ในราคาถูก
ทั้งนี้ ผลงานของพวกเขาได้เข้าร่วมประกวดในโครงการรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับภูมิภาค (ภาคใต้) สาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุดได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2551 รางวัลชนะเลิศ สาขาเทคโนโลยี ซึ่งประกาศผลและมอบรางวัลไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี พวกเขาได้เตรียมรูปแบบผลิตภัณฑ์รองเท้าวัวสำหรับจำหน่ายแล้วในราคาข้างละ 150 บาท พร้อมกาวชนิดพิเศษสำหรับติดรองเท้ากับกีบวัว โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า BLOX ซึ่งจะนำไปเปิดตัวในงานโคนมแห่งประเทศไทย เดือน ก.พ.52 ที่ จ.สระบุรี เป็นแห่งแรก.
