โปรดฟังสักครั้ง "โลกไม่ใช่ของมนุษย์"

∞ "ไซน์กระซิบ" ขาเม้าท์ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์รายงานตัวเพื่อ "เม้าท์กะไซน์" เช่นทุกเคยเจ้าค่า แม้ข่าววงการวิทย์จะถูกกลบด้วยข่าวการเมืองอันร้อนแรง ก็บ่หยั่นจ้า∞

∞ นับเวลาถอยหลังอีกไม่กี่วัน 10 ก.ย.นี้ ก็ได้กำหนด "เซิร์น" เดินเครื่องแล้ว "ไซน์กระซิบ" ก็อดลุ้น-อดตื่นเต้นกับการทดลองที่มีความร่วมมือระดับโลกอัน "สุดยอดอลัง" ไม่ได้ หลายคนก็คงใจจดใจจ่อกับการจับโปรตรอนชนกันเพื่อหา "อนุภาคพระเจ้า" ขณะที่หลายคนก็หวั่นใจกับ "หลุมดำจิ๋ว" ที่อาจจะขึ้น ว่าจะกลืนกินโลกทั้งใบจนหมดสิ้นหรือไม่ แต่ความกังวลนี้นักวิทยาศาสตร์ก็อธิบายว่า หากหลุมดำจิ๋วเกิดขึ้นมาจริงก็จะสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่คนทั่วไปกังวลว่า โลกจะถูกทำลายหรือไม่ นักฟิสิกส์เขาวิตกกันว่าจะหาสัญญาณของ "ฮิกก์" ท่ามกลางข้อมูลมหาศาลได้หรือไม่ ∞ 

∞ โลกจะถูกทำลายหรือไม่ คงไม่ใช่แค่การทดลองเร่งอนุภาคใต้ดินแดนสวิส-ฝรั่งเศส หากแต่เป็นผลงานของคนทั้งโลกที่ใช้ทรัพยากรอย่างไม่บันยะบันยัง ซึ่งสะท้อนออกมาชัดเจนในภาพยนตร์สารคดี "โลกไม่ได้เป็นของมนุษย์" (The Earth Does Not Belong to Man) และ "สัตว์ป่า" (Wild Animals) ของ "ญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์" ช่างภาพชื่อดังชาวฝรั่งเศส ซึ่งฉายภาพมนุษย์ฉกฉวยบนผลประโยชน์บนโลก โดยไม่เกรงใจสิ่งมีชีวิตอื่นได้อย่างชัดเจน  ∞ 

∞ ภาพลูกแมวน้ำถูกกวาดต้อนเพื่อฟาดตีให้ดับดิ้น แสดงถึงความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ เมื่อมนุษย์โยนบาปว่า เพื่อนร่วมโลกสปีชีส์นี้แย่งชิงปลาในท้องทะเล ทำให้ชาวประมงหาปลาได้น้อยลง ทั้งที่ตัวการแท้จริงอยู่ถัดไปอีกชายฝั่งที่มีการประมงเกินขนาดอยู่ใกล้ๆ อีกหลายภาพที่ถ่ายทอดการรุมทำร้ายดาวเคราะห์ดวงเดียวที่ "โฮโมซาเปียนส์" ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องริ้นรน  ∞ 

∞ ไม่ว่าจะเป็นการตัดทำลายป่าดิบชื้นในลุ่มน้ำอะเมซอน การถางป่าเพื่อปลูกข้าวโพดเป็นพื้นที่นับร้อยๆ เอเคอร์ ซึ่งปริมาณข้าวโพดที่ต้องปลูกด้วยปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงปริมาณมหาศาลนั้น แท้จริงแล้วเกินความต้องการของมนุษย์ถึง 50% ส่วนเกินดังกล่าวถูกผันไปเป็นอาหารสัตว์ซึ่งต้องใช้พื้นที่มหาศาลเพื่อเลี้ยงสัตว์สำหรับเป็นอาหารของมนุษย์อีกที  ∞ 

∞ เพราะความจำเป็นทางการเมืองทำให้ "รมต.โก้" ประจำ ซ.โยธี ต้องเลื่อนกำหนดเดินทางไปร่วมกิจกรรม "สื่อมวลชนสัมพันธ์" ที่ถิ่นล้านนา "เมืองเชียงใหม่" เพื่อเข้าประชุม "ครม.นัดพิเศษ" แต่ก็ยังไปทันกิจกรรม "รอบกองไฟ" ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทั้ง "รุ่นเด็ก" ไปจนถึง "รุ่นเดอะ" ขึ้นเวทีใส่ประโปรง "ชมพูพริ้ง" เต้น "รีวิว" ประกอบเพลง เช่นเดียวกับ "ตัวแทนสื่อมวลชน" ที่วางปากกา-สมุดจดข่าว ขอเต้นกับเขาบ้าง  ∞ 

∞ ความเชื่อที่ว่า หาก "นกแสก" เกาะหลังคาบ้านใครแล้ว บ้านนั้นจะมีคนตาย นับเป็นแนวคิดที่ทำให้นกพันธุ์นี้แทบจะสูญหายไปจากเมืองไทย เพราะถูกคุกคามด้วยเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของลางร้าย แต่ "วัชระ สงวนสมบัติ" แฟนพันธุ์ดูนนกบอกว่าความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องนัก และบอกด้วยว่าความเชื่อแบบอินเดียที่บอกว่า นกแสกคือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์น่าจะถูกต้องกว่า เพราะนกชนิดนี้ช่วยจำกัด "หนู" อันเป็นศัตรูตัวฉกาจของเกษตรกรรมได้มาก และตอนนี้คนไทยบางส่วน โดยเฉพาะชาวใต้ได้เพาะเลี้ยงนกแสก เพื่อใช้กำจัดศัตรูพืชแล้ว นับเป็นความเชื่อที่ช่วยอนุรักษ์นกสายพันธุ์นี้เอาไว้  ∞ 

∞ เมื่อเดือนที่แล้ว ทหารอากาศนักวิจัย และ อาจารย์ ม.ราชภัฏอุดรฯ แถลงผลสำเร็จพร้อมเปิดตัวรถยนต์ใช้ "เชื้อเพลิงจากน้ำ" จนเป็นข่าวฮือฮาขึ้นหน้า 1 น.ส.พ.หลายฉบับ แต่หลายคนอดตั้งข้อสังเกตต่างๆ นานาไม่ได้ว่าจะใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิงได้จริงหรือ รึว่าเป็นเรื่อง "แหกตา" ประชาชน เพราะยังต้องใช้น้ำร่วมกับน้ำมันเบนซินหรือก๊าซแอลพีจีอีกตั้ง 40%

ทำให้บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ที่รถมันเคลื่อนที่ไปได้ก็เพราะเชื้อเพลิง 40% ที่ว่านั่นต่างหาก ส่วนไฮโดรเจน 60% จากน้ำ อาจเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้นเอง...เอ้า! ท่านนักวิจัยเจ้าขา หาทางพิสูนจ์ข้อเท็จจริงโดยด่วนเจ้าค่า อย่าให้ใครเขาว่าได้ว่าเป็น "หวาง วู-ซก" เมืองไทยนะเจ้าคะ ∞

∞ ยังไม่ไปไกลจากเรื่องเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ก็เมื่อวันแถลงข่าวจัดงานการนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ "ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช" เลขาธิการ วช. ภูมิใจเสนอ "รถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนคันแรกของไทย" อย่างมาก ที่ วช.หนุนหลัง เอ๊ย! ให้ทุนวิจัย แถมยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงานด้วย ท่านเลขาฯ บอกอย่างเป็นปลื้มว่าเป็นฝีมือคนไทย-ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน 100% และลองขับด้วยตัวเองมาแล้ว

งานนี้ ดร.อานนท์ เลยคุยฟุ้งว่าจะเอามาขับโชว์ให้เห็นกันจะจะในวันงานกันเลยเทียว แต่สงกะสัยว่าอาจมีปัญหาเรื่องสถานที่เล็กน้อย หลังจากท่านเลขาฯลงมาจากเวทีแถลงข่าว หนูไซน์เลยแอบได้ยินเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมารายงานท่านเลขาฯว่า อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักหากจะขับรถโชว์ในงานจริงๆ ส่วนข้อสรุปแท้จริงเป็นอย่างไรหนูไซน์ก็ฟังไม่ชัดถนัดนัก คงต้องไปลุ้นพร้อมกันในวันงานเลยนะเจ้าคะ

แต่ที่แน่ๆ ท่านเลขาฯ บอกว่าจะสนับสนุนให้พัฒนาต่อจนถึงขั้นว่า ในอนาคตแต่ละครัวเรือนที่มีรถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนใช้ อาจจะมีปั๊มไฮโดรเจนอยู่ในบ้านของตัวเองกันด้วยก็ได้ เพราะ วช. จะผลักดันให้วิจัยนำ "พลังงานแสงอาทิตย์" มาใช้แยก "ไฮโดรเจน" ออกจาก "น้ำ" ได้ทั้งพลังงาน "สะอาด" และ "ราคาถูก" อย่างนี้มีแต่คุ้ม หนูไซน์และประชาชนคนไทยก็ขอเอาใจช่วยให้สำเร็จไวๆ นะเจ้าคะ ∞

∞ บ่ายวันเดียวกัน ณ ห้างเดียวกันที่เซ็นทรัล เวิลด์ "ดร.อานนท์" ยังต้องไปเป็นประธานเปิดนิทรรศการ "หอยหวานไทย เมนูเด็ด" ต่ออีกงานหนึ่ง แต่งานนี้ก็เรียกนักช็อป-ขาชิม ที่เดินผ่านไปมาให้แวะเวียนเข้ามาได้ไม่น้อย เพราะมีเมนูเด็ดจากหอยหวานให้ชิมมากมายและไม่มีอั้น

พอเสร็จสิ้นพิธีเปิดงานด้วยการเปิดหม้อหอยหวาน ขณะท่านประธานและคณะกำลังทยอยเดินลงจากเวที ก็มีเครื่องบางสิ่งหล่นแตก "เพล้ง" ดังลั่นอยู่ด้านหลังเวที ทำเอาทั้งคนบนเวทีและด้านหน้าเวทีต๊กกะใจจนหันมามองหน้ากันเลิกลั่กเหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นชั่วครู่ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปอย่างปรกติดี ทุกคนก็เลยโล่งอก เพราะไม่มีอะไรมากไปกว่า "เครื่องครัว" หล่นแตกเท่านั้นเองเจ้าค่า...แหม! แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่นิทรรศการโปรโมตหอยหวานมีแค่วันเดียวเองเจ้าค่า  ∞ 

∞ สสวท. เปิดหลักสูตรเขียนโปรแกรมภาษาซีออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.programming.in.th เริ่มลงทะเบียนเข้าอบรมได้ตั้งแต่วันนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 02 392 4021 ต่อ 3415, 3414, 3406  ∞ 

∞ สัปดาห์นี้ขอเม้าท์แบบสงวนท่าที สำหรับใครที่เรื่องอยาก "เม้าท์" กับ "ไซน์กระซิบ" ก็ "กอสซิบ" กันมาได้ที่ scigossip@gmail.com ได้เช่นเคยเจ้าค่า  ∞