ละลายศพทิ้งน้ำ! ฌาปนกิจแบบใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เอพี - นับแต่มีมนุษย์ขึ้นมาเดินบนโลกเผ่าพันธุ์โฮโมซาเปียนส์ก็จัดการความตายของกันเองด้วยการฝังหรือไม่ก็เผา แต่วิธีใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยละลายศพแล้วปล่อยทิ้งลงน้ำ

วิธีการฌาปนกิจแบบใหม่เรียกว่า "อัลคาไลน์ไฮโดรไลซิส" (alkaline hydrolysis) ซึ่งพัฒนาขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 16 ปีที่แล้วเพื่อใช้ในการกำจัดซากสัตว์ วิธีการคือใช้สารละลายไล (lye) หรือสารละลายประเภทโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสและความดัน 60 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) ทำลายศพในกระบอกขนาดใหญ่ที่ทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม

ทั้งนี้ไม่มีโรงฌาปนกิจไหนในโลกที่รับเทคโนโลยีนี้เพื่อจัดการศพ มีเพียงศูนย์การแพทย์ในสหรัฐฯ 2 แห่งที่ใช้เทคนิคนี้กับร่างมนุษย์และเป็นเพียงการใช้กับร่างที่บริจาคเพื่องานวิจัย หากแต่เพราะข้อได้เปรียบในแง่ของสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมจัดการศพบางแห่งให้ความเห็นว่าเทคนิคนี้อาจเบียดพิธีกรรมในการฝังและเผาศพได้ในวันใดวันหนึ่ง

การจะทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับเทคโนโลยีนี้ดูจะเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งนี้สารละลายไลเป็นสารละลายที่ถูกใช้โดยคนโรคจิตและเผด็จการเพื่อทรมานเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย นอกจากนี้ยังตอกย้ำด้านลบเข้าไปอีกจากตัวแสดงที่มีความวิปริตทางเพศในภาพยนต์เรื่องฮานนิบอล เลคเตอร์ (Hannibal Lecter's bill) แต่ไฮโดรไลซิสก็เป็นสิงที่ถูกกฎหมายในรัฐมินเนโซตาและรัฐนิวแฮมเชียร์ สหรัฐฯ

กระบวนการนี้ให้ของเหลวสีกาแฟซึ่งมีความเหนียวคล้ายน้ำมันเครื่องยนต์และมีกลิ่นแอมโมเนียค่อนข้างแรง หากแต่ผู้ที่สนับสนุนวิธีฌาปนกิจแบบนี้กล่าวว่า ของเหลวดังกล่าวสะอาดพอและโดยส่วนใหญ่ปลอดภัยที่ปล่อยลงน้ำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาต นอกจากจะได้ของเหลวออกมาแล้วยังทิ้งกระดูกแห้งที่เหมือนกับพิธีทำศพทั่วๆ ไปเหลือทิ้งไว้ซึ่งครอบครัวอาจนำไปใส่โกศหรือจะทำพิธีฝังก็ได้

พิธีทำศพแบบอัลคาไลน์ไฮโดรไลซิสไม่ใช้พื้นที่มากเหมือนพิธีฝังศพ และระหว่างขั้นตอนของกระบวนการก็สามารถขจัดข้อกังวลเกี่ยวกับการปลดปล่อยต่างๆ อันเนื่องจากพิธีทำศพซึ่งรวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปรอทที่ผู้ตายใช้ในการอุดฝันด้วย

แบรด เครน (Brad Crain) ประธานบริษัทไบโอเซฟเอนจิเนียริง (BioSafe Engineering) สหรัฐฯ ซึ่งรับผลิตกระบอกเหล็กกล้าสำหรับพิธีฌาปนกิจนี้ประมาณว่า มีราว 40-50 องค์กรที่ใช้อุปกรณ์นี้เพื่อกำจัดของเสียเกี่ยวกับมนุษย์ในเชิงการแพทย์และซากสัตว์ หรืออาจจะใช้งานทั้งสองด้าน โดยผู้ใช้นั้นได้แก่สถาบันทางด้านสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัย บริษัทยาแและรัฐบาลสหรัฐฯ.