กรีนพีซเปิดตัวโครงการ "เรารักข้าวไทย" ชวนร้านอาหารทั่วประเทศปฏิเสธพืชจีเอ็มโอ แนะนำ 9 ร้านตบเท้าปฏิญาณปลอดจีเอ็มโอ "ณัฐวิภา" รับหวั่นข้าวไทยจะกลายเป็นข้าวผีดิบ เพราะกฎหมายยังไม่ครอบคลุม ด้าน "อาจารย์ยิ่งศักดิ์" ขู่ก่อ "ม็อบคนครัว" หากพบข้าวไทยปนเปื้อน วอนนักวิจัยมีความรับผิดชอบ หมายหัวคนที่ทำข้าวไทยเปื้อนจีเอ็มโอจะยิ่งกว่าทรราชย์ เป็นคนขายชาติตัวจริง!
ขณะที่ข้าวไทยกำลังขาดแคลน หลายคนก็คิดถึงเทคโนโลยีพืชดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้ข้าวไทยมีผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีผู้บริโภคอีกมากที่ไม่กล้ารับประทานข้าวจีเอ็มโออย่างสนิทใจ กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเปิดตัวโครงการ "เรารักข้าวไทย" ขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย.51 ณ โรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ โดยมีอาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ พ่อครัวชื่อดังเจ้าของสถานที่ในฐานะแนวร่วมต่อต้านการทำจีเอ็มโอข้าวไทยร่วมแถลงข่าว
น.ส.ณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม ของกรีนพีซฯ กล่าวว่า ข้าวไทยได้ชื่อว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวรายใหญ่และอุดมไปด้วยพันธุ์ข้าวธรรมชาตินับหมื่นสายพันธุ์ คนไทยจึงควรภาคภูมิใจในข้าวไทย ขณะที่ข้าวจีเอ็มโอเป็นสิทธิบัตรของบรรษัทข้ามชาติไม่ถึง 10 แห่งทั่วโลกที่พยายามเข้ายึดครองแหล่งอาหารของคนไทย โดยยัดเยียดพืชจีเอ็มโอให้ แต่รายได้จากการปลูกกว่า 95% จะต้องตกเป็นของต่างชาติอย่างเลี่ยงไม่ได้
"โครงการเรารักข้าวไทยจึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ร้านอาหารทั่วประเทศร่วมกันปฏิเสธที่จะซื้อหรือขายข้าวจีเอ็มโอ แต่สนับสนุนข้าวไทยและพืชจากแปลงปลูกเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างแรงกดดันให้กับผู้ค้าข้าวเห็นว่าเราไม่ต้องการข้าวจีเอ็มโอ" ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรมฯ กล่าว ซึ่งเวลานี้ในต่างประเทศมีการพัฒนาข้าวจีเอ็มโอกันอย่างแพร่หลายเพื่อให้มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น มีวิตามินสูง ทนสารเคมีการเกษตร และป้องกันแมลงศัตรูพืชได้มากขึ้น
เธอเท้าความด้วยว่า ตั้งแต่ตลาดโลกอนุญาตให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย์เมื่อปี 2540 พบว่าในรายการสินค้านำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ไทยมีตัวเลขนำเข้ามะละกอจีเอ็มโอและมะเขือเทศจีเอ็มโอมาในรูปของฟรุตสลัดเรื่อยมา แต่เนื่องจากไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่เหมาะสมจึงไม่สามารถระบุได้ว่าร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตใดมีพืชจีเอ็มโอจำหน่ายบ้าง
ขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎระเบียบใดที่ควบคุมการทำจีเอ็มโอข้าวไทย จึงมีความเสี่ยงที่ข้าวไทยจะปนเปื้อนจีเอ็มโอได้ ทำให้ผู้ค้าสามารถขายข้าวจีเอ็มโอให้แก่ผู้บริโภคได้โดยไม่ต้องติดสลาก ผู้บริโภคจึงเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากข้าวจีเอ็มโอซึ่งยังไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภค
ด้านอาจารย์ยิ่งศักดิ์ กล่าวว่า ข้าวไทยเป็นข้าวที่อร่อยที่สุดและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ไม่มีชาติใดที่ทำอาหารข้าวได้อร่อยเท่าคนไทยอีกแล้ว ตัวเขาเองไม่ปิดกั้นเรื่องการเรียนรู้วิจัย แต่อยากเรียกร้องให้นักวิจัยมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย อย่าเห็นแก่การวิจัยส่วนตัว เพราะหากปนเปื้อนสู่ข้าวไทยแล้วจะทำให้ข้าวไทยหมดสิ้นไป และแก้ไขได้ยาก
"เมื่อถึงตอนนั้นแล้วใครจะรับผิดชอบ เพราะปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดที่กำหนดผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน หรือแม้แต่จะมีรัฐมนตรีสักคนออกมาแสดงตัวว่าจะรับผิดชอบหากมีการปนเปื้อน"
"วันใดที่ข้าวไทยโดนย่ำยี ฉันจะลุกขึ้นมาก่อม็อบคนครัวครั้งใหญ่ และจะใหญ่กว่าม็อบไหนๆ อีก เพราะข้าวไทยเป็นศักดิ์ศรีของคนไทยมาตั้งแต่อดีตกาล ชาวต่างชาติเดินทางมาไกลค่อนโลกเพื่อมากินข้าวไทย จึงสงสัยว่าทำไมเราต้องทำข้าวจีเอ็มโอ" ผอ.โรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติตั้งข้อสังเกต พร้อมเรียกร้องให้บุคลากรด้านการแพทย์ออกมาให้ความรู้ถึงผลดีผลเสียของพืชจีเอ็มโอแก่สาธารณชนด้วย
"ใครที่ทำให้ข้าวไทยเป็นจีเอ็มโอจะยิ่งกว่าทรราชย์และเป็นคนขายชาติอย่างแท้จริง คิดดูซิว่าต่อไปเราจะเล่าเรื่องข้าวไทยให้แก่ลูกหลานเราฟังได้อย่างไร" อาจารย์ยิ่งศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "เรารักข้าวไทย" แล้วยังมีการสาธิตทำ "ซูชิข้าวคลุกกะปิ" จากข้าวไทยเพื่อให้สื่อมวลชนชิมโดยฝีมือการปรุงของอาจารย์ทาลินี แปรรูปวิไล ครูใหญ่โรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้าวไทยสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารนานาชาติได้หลากหลายอย่างที่มีความเอร็ดอร่อยไม่แพ้ข้าวของชาติใดๆ อย่างที่มีกระแสเห่อข้าวต่างชาติเป็นระยะๆ
สำหรับโครงการ "เรารักข้าวไทย" มีร้านอาหารหลายแห่งในกรุงเทพฯ เข้าร่วมโครงการแล้ว ได้แก่ ร้าน Spring&Summer ของดาราหนุ่ม "พล ตัณฑเสถียร" ตลอดจนร้านอาหารชื่อดังอีก 8 แห่งคือ ร้านอโณทัย ร้านตำแหลก ร้านบ้านระเบียงน้ำ ร้านศิริชัย ไก่ย่าง ร้านครัวคุณย่า ร้านบ้านสวนดินเผา ร้านอิ่มอุ่น และร้านบ้านแสนรัก
ผู้สนใจสามารถดูรายชื่อร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ "เรารักข้าวไทย" ได้ที่เว็บไซต์ www.truefood.org ส่วนร้านอาหารใดที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว โดยกรีนพีซฯ จะติดต่อขอเข้าชมวัตถุดิบในร้านและพิจารณามอบตราสัญลักษณ์โครงการแก่ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจน โรงแรมทุกแห่งที่ร่วมสนับสนุนอาหารธรรมชาติปลอดจีเอ็มโอ และอาหารที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค