สวทช.ส่งเทคโนโลยี "เช็คการจราจรผ่านมือถือ-ตรวจแอลกอฮอล์" รับสงกรานต์

สวทช.ส่ง 2 เทคโนโลยีรับสงกรานต์ โปรแกรมรายงานและรับส่งข้อมูลการจราจร ดึงข้อมูลป้ายจราจรอัจฉริยะทั่วกรุง 40 แห่งโชว์บนมือถือ พร้อมเตรียมเพิ่มข้อมูลถนน 5 สายรองรับการเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย อีกเทคโนโลยีเป็นเครื่องตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ผลงานคนไทยราคาถูกกว่านำเขาเกือบ 3 เท่า

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำเสนอ 2 เทคโนโลยีต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังใกล้มาซึ่งมีการเดินทางกลับภูมิลำเนากันหนาแน่น โดยเทคโนโลยีแรกคือโปรแกรมระบบขนส่งและการจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transport Systems) ซึ่งเป็นโปรแกรมการแสดงผลข้อมูลสภาพการจราจร ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พัฒนาขึ้นและได้ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจทางหลวงนำผลงานเผยแพร่และให้ประชาชนใช้บริการผ่านเว็บไซต์ http://traffic.thai.net เมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2550 ที่ผ่านมา

สำหรับปี 2551 นี้ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยและหัวหน้าโครงการประเมินและรายงานสภาพจราจร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เผยว่ายังมีโปรแกรม JTraffic ที่แสดงข้อมูลของป้ายจราจรอัจฉริยะทั้งหมด 40 ป้ายในกรุงเทพฯ โดยที่ผู้บริการไม่ต้องอยู่บนท้องถนน และสงกรานต์นี้จะเพิ่มข้อมูลของถนนอีก 5 สาย ได้แก่ สายพหลโยธิน-สระบุรี สายสุขุมวิท สายบางนา-ตราด สายมอเตอร์เวย์ และสายสุขุมวิท-กาญจนาภิเษก

ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมามีปริมาณการใช้บริการรายงานจราจรผ่านเว็บไซต์ถึง 50,000 ครั้ง โดยทุกครั้งที่มีประกาศเชิญชวนให้ใช้บริการผ่านทางโทรทัศน์ระบบก็ล่มในทันที ดังนั้นปีนี้ทางเนคเทคจึงได้เพิ่มเซิร์ฟเวอร์เป็น 5 เครื่องจากเดิมที่มีเพียงเครื่องเดียว รวมทั้งพัฒนาระบบให้เร็วขึ้นด้วย

นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการสอบถามข้อมูลสภาพการจราจรผ่านโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ (MSN Messenger) โดยสามารถใช้งานได้ด้วยการเพิ่มชื่อผู้ติดต่อต่อไปนี้คือ abdul01@its-thailand.org, abdul02@its-thailand.org, abdul03@its-thailand.org, abdul04@its-thailand.org, abdul05@its-thailand.org เข้าในโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ โดยโทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการโปรแกรมเหล่านี้ได้ต้องรองรับการใช้งานของโปรแกรมจาวา (JAVA) ได้

อีกเทคโนโลยีคือเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบพกพา ซึ่ง ดร.อดิสร เตือนตรานท์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยนาโนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจุลภาค ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าวว่าได้พัฒนามา 5 รุ่นแล้ว โดยรุ่นล่าสุดั้นพร้อมใช้งานจริงและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เอกชน โดยเบื้องต้นจะผลิตเองจำนวน 3,000 เครื่อง และแจกจ่ายให้ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 100 เครื่อง

คุณสมบัติของเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ดังกล่าวจะวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจของผู้ขับขี่ โดยอาศัยการทำงานของเซนเซอร์แบบสารกึ่งตัวนำที่วัดการเปลี่ยนแปลงของความดันไฟฟ้า เนื่องจากก๊าซซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์เจือปนจะทำให้ความดันไฟฟ้าของเครื่องเปลี่ยนไป

ทั้งนี้เครื่องใช้เวลาวิเคราะห์เพียง 2-5 วินาที และสามารถวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดในช่วง 0-400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ตามกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งหากเกินกำหนดเครื่องจะส่งสัญญาณออกมา โดยเครื่องตรวจวัดจะระบุปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดออกมาเป็นตัวเลขด้วย นอกจากนี้ยังตรวจสอบได้เบื้องต้นโดยไม่ต้องให้ผู้ขับขี่เป่าลมหายใจก็สามรถระบุได้ว่ามีเแอลกอฮอล์หรือไม่

ดร.อดิสร กล่าวอีกเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบพกพาที่เนคเทคพัฒนาขึ้นมานี้มีประสิทธิภาพใกล้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งใช้การวิเคราะห์จากหัววัดปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้า โดยปกติหัววัดดังกล่าวจะวัดได้แม่นยำกว่าเซนเซอร์แบบสารกึ่งตัวนำ แต่ศูนย์เน้นการพัฒนาเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วยสารกึ่งตัวนำเนื่องจากมีขนาดเล็กและราคาถูก โดยเครื่องนำเข้ามีราคาประมาณ 30,000 บาท ขณะที่เครื่องซึ่งเนคเทคพัฒนานั้นมีราคาประมาณ 8,000 บาทเท่านั้น.