นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รมว.คค.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก โดยประมาณการว่าจะมีผู้เดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน จึงสั่งการให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพิ่มเที่ยววิ่งของรถโดยสาร วันละ 5,432 เที่ยว เพื่อให้สามารถรองรับประชาชนเดินทางได้กว่า 900,000 คน ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้สั่งการให้เพิ่มขบวนรถพิเศษ วันละ 12 ขบวน เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่าวันละ 110,000 คน ส่วนการให้บริการของสายการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะมีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษภายในประเทศ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้วันละ 170,000 คน โดยเฉพาะเส้นทางบินไปยังจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต
ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน ให้มีการเพิ่มความถี่ของเที่ยวรถ เฉลี่ยวันละ 8,100 เที่ยววิ่ง และระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับ จะมีการเพิ่มเที่ยววิ่งเป็นวันละ 8,130 เที่ยววิ่ง นอกจากนี้ ขสมก.จะนำรถยูโรทูมาให้บริการการเดินทางในจังหวัดใกล้เคียง เช่น จากกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา, กรุงเทพฯ-สระบุรี และกรุงเทพฯ-กำแพงแสน เพื่อเสริมการให้บริการของ บขส.ด้วย
สำหรับการอำนวยความสะดวกการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น กรมทางหลวงจะยกเว้นค่าผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 และ 9 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 เมษายน ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน รวมทั้งได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท หยุดงานก่อสร้างเขตทางและคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกในการเดินทางช่วงเทศกาลด้วย
ขณะที่การดูแลด้านความปลอดภัยนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรารักษาความปลอดภัยในสถานีขนส่ง การกวดขันนำสุนัขดมกลิ่นออกตรวจสอบและค้นหาสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะสถานีรถโดยสาร สนามบิน และสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ใช้รถใช้ถนน และจุดตรวจจับความเร็ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยให้ทุกหน่วยงานประสานงานกับศูนย์ปลอดภัยคมนาคม และประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือหรือสอบถามเส้นทาง และแจ้งเหตุต่าง ๆ ได้ที่สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่งโมง
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้กำหนดเป้าหมายในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ต้องสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลง โดยตัวเลขอุบัติเหตุจะต้องไม่มากกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งต้องลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดกับรถสาธารณะลงให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของปีที่แล้วด้วย
ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน ให้มีการเพิ่มความถี่ของเที่ยวรถ เฉลี่ยวันละ 8,100 เที่ยววิ่ง และระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับ จะมีการเพิ่มเที่ยววิ่งเป็นวันละ 8,130 เที่ยววิ่ง นอกจากนี้ ขสมก.จะนำรถยูโรทูมาให้บริการการเดินทางในจังหวัดใกล้เคียง เช่น จากกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา, กรุงเทพฯ-สระบุรี และกรุงเทพฯ-กำแพงแสน เพื่อเสริมการให้บริการของ บขส.ด้วย
สำหรับการอำนวยความสะดวกการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น กรมทางหลวงจะยกเว้นค่าผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 และ 9 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 เมษายน ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน รวมทั้งได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท หยุดงานก่อสร้างเขตทางและคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกในการเดินทางช่วงเทศกาลด้วย
ขณะที่การดูแลด้านความปลอดภัยนั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรารักษาความปลอดภัยในสถานีขนส่ง การกวดขันนำสุนัขดมกลิ่นออกตรวจสอบและค้นหาสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะสถานีรถโดยสาร สนามบิน และสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ใช้รถใช้ถนน และจุดตรวจจับความเร็ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยให้ทุกหน่วยงานประสานงานกับศูนย์ปลอดภัยคมนาคม และประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือหรือสอบถามเส้นทาง และแจ้งเหตุต่าง ๆ ได้ที่สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่งโมง
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้กำหนดเป้าหมายในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ต้องสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลง โดยตัวเลขอุบัติเหตุจะต้องไม่มากกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งต้องลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดกับรถสาธารณะลงให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของปีที่แล้วด้วย
