Vincent van Gogh คือ จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ผู้ยิ่งใหญ่ ระดับ Rembrandt เขาเกิดที่หมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Groot - Zundert ในเมือง Brabant ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2396 (รัชสมัยพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) และเป็นบุตรคนหัวปีของ Theodorus van Gogh ผู้มีทายาททั้งหมด 6 คน
ในวัยเด็ก van Gogh เป็นเด็กที่ชอบครุ่นคิดและขรึม เพราะบิดาเป็นนักเทศน์แห่งโบสถ์ Dutch Reformed Church ในระยะแรก เด็กชาย van Gogh จึงรู้สึกอยากเป็นนักเทศน์บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีลุง 3 คน ที่มีอาชีพขายภาพ ดังนั้น van Gogh จึงได้รับอิทธิพลจากลุงในการคิดดำรงชีพเป็นจิตรกรบ้าง และ van Gogh ก็ได้พบว่า ในยามว่าง เขาชอบวาดภาพลายเส้นมาก
เมื่ออายุ 7 ปี van Gogh ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งเมือง Zundert ซึ่งมีครู 1 คนต่อนักเรียน 200 คน แต่เด็กชาย van Gogh รู้สึกว่า ชีวิตนักเรียนน่าเบื่อ เพราะไม่มีวิชาใดสนุก เมื่ออายุ 15 ปี van Gogh ได้งานทำเป็นพนักงานขายภาพศิลป์ในร้านของลุงที่ London เวลาได้รับเงินเดือน van gogh รู้สึกดีใจ เพราะมีรายได้สูงกว่าบิดา
เมื่ออายุ 23 ปี Van Gogh ได้กลับไปฝึกงานกับลุงอีกครั้งหนึ่งที่ Goupil Gallery แต่ฝึกได้ไม่นานก็ต้องลาออก เพราะไปทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ประจำร้าน เหตุการณ์นี้ทำให้ van Gogh คิดมีอาชีพเป็นนักเทศน์ที่สามารถช่วยชีวิตคนได้เหมือนบิดา จึงไปสมัครทำงานเป็นนักเทศน์ให้ชาวเหมืองที่ยากจน และไร้การศึกษาฟังที่เหมือง Borinage ในเบลเยียม แต่ van Gogh ไม่สามารถสื่อความหมายของศาสนาให้ชาวเหมืองที่ยากไร้เหล่านี้เข้าใจได้ เขาจึงไล่ออกจากงานอีก ความผิดหวังในการทำงานด้านนี้ทำให้ van Gogh เลิกล้มความตั้งใจทำงานที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอีก
ดังนั้น เขาจึงหันเข็มชีวิตไปเรียนศิลปะกับ Willem Roelofs ที่ Brussels Academy แทนเพราะคิดว่าตนมีความสามารถด้านศิลปะ และขณะเรียนที่นั่นก็ได้เรียนกายวิภาคศาสตร์ และศิลปะวาดภาพ เมื่อสำเร็จการศึกษาได้เดินทางไปอยู่กับพ่อแม่ที่ Etten ในเนเธอร์แลนด์ แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกบิดาขับออกจากบ้าน เพราะ Van Gogh ดื่มสุราจัดและสูบบุหรี่ตลอดเวลา อีกทั้งคิดนำโสเภณีที่มีครรภ์มาเลี้ยงดูในบ้านด้วย
เมื่อไม่มีที่พึ่ง van Gogh จึงเดินทางไปเรียนวาดภาพกับ Anton Mauve ผู้เป็นญาติห่างๆ ที่กรุง Hague นาน 2 ปี จนถึงปี 2426 จึงเริ่มอาชีพจิตรกรที่ชนบทเล็กๆ ชื่อ Drenthe ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนเยอรมนี เพราะภาพที่วาดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับชีวิตของชาวนาที่มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ดังนั้น ภาพจึงมีแต่ความมืดสลัว และเมื่อ van Gogh ชื่นชมผลงานของ Jean Francois Millet มาก เขาจึงเลียนแบบโดยวาดเฉพาะภาพชีวิตของคนที่เขาเคยเห็นเท่านั้น
ภาพที่วาดในช่วงนี้ได้แก่ ภาพชาวเหมืองที่ Borinage และภาพคนขอทานที่ Hague กับภาพ The Potato Eater ที่เขาวาดในปี 2428 ซึ่งแสดงครอบครัวชาวนากำลังกินมันฝรั่งเป็นอาหารเย็น ณ เวลานั้น van Gogh เริ่มเรียนรู้ว่าโลกจิตรกรกับชีวิตครอบครัวของเขาไปด้วยกันไม่ได้
ในปี 2429 van Gogh ได้เห็นภาพวาดของ Eugene Delacroix กับ Rubens และภาพลายเส้นของจิตรกรญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์ใน Antwerp เขารู้สึกสนใจทฤษฎีสี จึงได้เข้าเรียนศิลปะที่ Antwerp Academy ชีวิตของ van Gogh ในช่วงเวลานั้นลำบากมาก เพราะขาดเงิน จึงต้องขออาศัยอยู่กับเพื่อน และเวลาทำงานก็ใช้กาแฟเป็นสารกระตุ้น แต่เมื่อเขาได้พบว่า สถาบันมิได้สอนความรู้ใหม่ๆ ให้เขาเลย จึงลาออกเพื่อเดินทางไป Paris และได้ไปพำนักที่ Paris เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งนานพอที่ทำให้ van Gogh เข้าใจสไตล์การวาดภาพแบบ Impressionism
ขณะใช้ชีวิตอยู่ใน Paris หนุ่ม van Gogh ได้พบ Camille Corot และ Honore Daumier ที่ Goupil Gallery และได้รู้จัก Henri de Toulouse Lautrec อีกทั้งยังได้ฟัง Camille Pissaro อธิบายสไตล์การวาดภาพแบบ pointillism ด้วย และเมื่อได้รู้จัก Edgar Degas, George Seurat, Paul Signac กับ Paul Gauguin ทัศนคติในการวาดภาพของ van Gogh ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
เขาเริ่มใช้สีเบาแทนสีหนัก เพื่อแสดงความมีชีวิตของภาพ และ van Gogh ก็ได้พบว่า เขาสามารถนำภาพที่เขาวาดนี้ไปแลกกับสี แปรงวาด และผ้าใบได้บ้าง ส่วนอาหารการกินนั้น แทบไม่ต้องพูดถึงเพราะ van Gogh สูบบุหรี่จัด จนแทบไม่ต้องการอาหารเลย ยกเว้น ขนมปัง กาแฟ และแอลกอฮอล์ เขาจึงรู้สึกอ่อนเพลีย และชอบขังตัวอยู่ในห้อง แต่เวลาไปพิพิธภัณฑ์ Louvre เขาจะอยู่ที่นั่นได้นานเป็นชั่วโมง โดยเดินชมภาพที่ติดแสดง เพราะ van Gogh รู้สึกซึ้งในภาพวาดสไตล์ Impressionism มาก เขาจึงเริ่มใช้สีระบายที่เข้มขึ้น และลายเส้นในภาพก็เริ่มมีความเป็นอิสระมากขึ้น
สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท