รองประธานมูลนิธิ สอวน.เสียใจและใจหายกับข่าวการสิ้นพระชนม์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เผยมูลนิธิฯ จะสืบสานปณิธานงานส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไป พร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่
ชาวไทยทั่วทุกแห่งหนกำลังตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจอย่างถึงที่สุดกับข่าวการสิ้นพระชนม์อย่างสงบในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 2 นาฬิกา 54 นาทีของเช้าตรู่วันนี้ (2 ม.ค.) ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา รองประธานมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือภายหลังทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยยืนยันว่า คณะกรรมการทุกๆ คนในมูลนิธิ สอวน.ยังจะคงยึดมั่นพระปณิธานและสืบทอดพระเจตนารมย์ในพระองค์ที่มีต่อภารกิจของมูลนิธิฯ อย่างเข้มแข็งต่อไป
ศ.นพ.จรัส เผยว่า กิจกรรมต่างๆ ที่มูลนิธิ สอวน.ได้ดำเนินการมาตลอดก็จะมีการดำเนินการต่อไปแน่นอน แม้ว่าขณะนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในฐานะองค์ประธานมูลนิธิฯ จะทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่คณะกรรมผู้ทำงานที่มีอยู่ของมูลนิธิฯ ก็จะปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่แน่นอนว่าจะใช้ชื่อมูลนิธิฯ นี้ต่อไปเหมือนครั้งที่พระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ เช่นเดียวกับระบบการทำงานต่างๆ ก็ยังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนพิธีไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่มูลนิธิ สอวน.ที่จะมีขึ้นนั้น รองประธานมูลนิธิ สอวน. เผยว่า ทางมูลนิธิจะขยายพิธีเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 84 พรรษาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2550 ซึ่ง มูลนิธิ สอวน.เตรียมการมาอย่างต่อเนื่องก็จะมีอยู่ต่อไป แต่จะเพิ่มเติมเนื้อหาของงานให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระองค์ โดยพยายามสะท้อนให้ปวงพสกนิกรได้ระลึกถึงพระกรณียกิจและพระเมตตาที่ทรงมีต่อประชาชนเสมอมา
ศ.นพ.จรัส เผยด้วยว่า ส่วนพระกรณียกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงให้การอุปถัมภ์มีทั้งโครงการโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ อีกทั้งทรงรับสั่งเรื่องวิทยาศาสตร์การศึกษาด้วย ซึ่งทรงชี้ให้เห็นว่า การส่งเยาวชนไปแข่งขันนานาชาติแล้วชนะกลับมาย่อมเป็นเรื่องสำคัญ แต่การส่งเสริมมาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาโดยรวมสำหรับเยาวชนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่นการพัฒนาครูผู้สอนก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน โดยมูลนิธิ สอวน.จะได้น้อมนำมาเป็นหลักในการปฏิบัติงานสืบไป
"ทุกคนรู้สึกตกใจ ก็ได้รับทราบที่พระองค์ทรงพระประชวรมาเป็นระยะ ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของสังคมไทย และของมูลนิธิฯ ก็เสียใจเป็นธรรมดาครับ"
"เราใจหาย แต่ทุกคนก็จะทำตามปณิธานในพระองค์อย่างเต็มที่ต่อไป เพราะพระองค์ทรงมีพระเมตตามากเลย ไม่เฉพาะแต่กับมูลนิธิฯ เท่านั้น แต่กับบุคคลธรรมดาก็ทรงมีพระเมตตามาก ตัวเราก็เล็กนิดเดียว พระองค์ก็ยังทรงคิดถึง พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่พิเศษจริงๆ" ศ.นพ.จรัสกล่าวด้วยเสียงสั่นเครืออย่างโศกเศร้าด้วยความอาลัยอาวรณ์
สำหรับมูลนิธิ สอวน.เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงรับทราบว่าเด็กไทยมีโอกาสไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ พระองค์จึงทรงสนพระทัยและทรงให้การสนับสนุน โดยได้ประทานพระราชทรัพย์ และจัดตั้งมูลนิธิ สอวน.ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2532 เพื่อเตรียมนักเรียนไทยเพื่อเข้าแข่งขันครั้งที่ 30 เรื่อยมา พร้อมๆ กับการยกระดับการศึกษาของเด็กไทยส่วนใหญ่ทั่วประเทศให้ดีขึ้น อันเป็นเรื่องที่ทรงถือว่ามีความสำคัญสูงสุด
