xs
xsm
sm
md
lg

กทม. จับมือฮ่องกง แลกเปลี่ยนความรู้ “สิ่งแวดล้อม-อาคารสีเขียว” มุ่งบรรลุเป้าหมาย Net-Zero

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



(3 ธ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ Mr. Parson LAM ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำกรุงเทพมหานคร (HKETO) Ms. Susan YIP รองผู้อำนวยการ HKETO และคณะผู้แทนจาก The BEAM Society ในโอกาสเข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโครงการอาคารสีเขียว และหารือถึงโอกาสในการสร้างความร่วมมือในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนจาก HKETO และ The BEAM Society และกล่าวถึงการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกรุงเทพฯ เนื่องจากแหล่งใช้พลังงานหลักของเมืองมาจากพลังงานในอาคารและการคมนาคม กทม. จึงพยายามส่งเสริมการลงทุนในอาคารสีเขียวผ่านมาตรการจูงใจที่เหมาะสม

จากนั้น เป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานสำคัญของ กทม. อาทิ

- การเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ซึ่งขณะนี้สามารถปลูกไปแล้วกว่า 2.2 ล้านต้น และโครงการสวน 15 นาที เพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะขนาดเล็กที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ภายใน 15 นาที ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 395 สวน

- การส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop เนื่องจากกรุงเทพฯ มีแสงแดดมาก โดยมีแผนที่จะแปลงอาคารของ กทม. เอง เช่น โรงพยาบาล และโรงเรียน ให้เป็นอาคารที่ได้มาตรฐานอาคารสีเขียว และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

- การทำงานร่วมกับธนาคารโลก (World Bank) เพื่อจัดทำแพลตฟอร์มในการรวบรวม ตรวจสอบ และรับรองข้อมูล Carbon Credit จากโครงการย่อยต่าง ๆ เช่น โครงการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อสร้างผลประโยชน์และรายได้กลับคืนมา

- มาตรการด้านกฎหมายเพื่อสนับสนุนอาคารสีเขียว โดยร่างผังเมืองรวมใหม่และปรับปรุงกฎหมายควบคุมอาคารเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยใช้มาตรการจูงใจในการเพิ่มอัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน (FAR) รวมถึงการกำหนดอัตราส่วนพื้นที่สีเขียว (Green Area Ratio) ในอาคาร

ด้านคณะผู้แทนจาก HKETO และ The BEAM Society ได้กล่าวถึงการปล่อยคาร์บอนในฮ่องกงว่ามาจากอาคารกว่า 50% และเน้นย้ำถึงเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน 50% ภายในปี 2035 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 จากนั้นได้นำเสนอถึงมาตรฐาน BEAM Plus ซึ่งเป็นระบบการประเมินอาคารสีเขียวที่ครอบคลุมและมีความยืดหยุ่นสูง โดยระบบดังกล่าวครอบคลุมประเด็นด้านต่าง ๆ เช่น การใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการประเมินอาคารสีเขียวในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศและความหนาแน่นของเมืองคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ

คณะผู้แทนระบุด้วยว่า ฮ่องกงเป็น ศูนย์กลางด้าน Green Finance ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และกำลังเตรียมพร้อมเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอน (Carbon Trading Hub) และที่สำคัญคือ การรับรอง BEAM Plus มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของ Thailand Green Taxonomy ซึ่งจะช่วยให้โครงการที่ได้รับการรับรองในประเทศไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวได้ ทั้งนี้ เป้าหมายของการเยือนคือการแบ่งปันประสบการณ์และสำรวจโอกาสความร่วมมือ พร้อมยกตัวอย่างโครงการที่ใช้มาตรฐาน BEAM Plus ในกรุงเทพฯ แล้ว ได้แก่ All Seasons Place

ในช่วงท้าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่มีโครงการนำร่องในกรุงเทพฯ แล้ว และเชื่อว่ามาตรฐาน BEAM Plus จะเป็นประโยชน์ในการประยุกต์ใช้กับอาคารเก่าและอาคารใหม่ของ กทม. โดยหวังว่าจะมีการติดต่อประสานงานและหารือในรายละเอียดเชิงเทคนิคกันต่อไปเพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในอนาคต

สำหรับวันนี้ ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง สำนักงานการต่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร


















กำลังโหลดความคิดเห็น