xs
xsm
sm
md
lg

พม.พบแล้วดาวเด่นจากเวที “Street to Star” คว้ารางวัลใหญ่ พร้อมถ้วยรางวัล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรุงเทพฯ – เย็นวานนี้ (12 กันยายน 2568) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จัดการประกวดรอบชิงชนะเลิศโครงการ “Street to Star…เส้นทางจากถนนสู่ดวงดาว” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไป
อย่างคึกคัก มีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีมกว่า 55 ทีม/คน ร่วมโชว์ความสามารถเต็มพลังต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เข้าแข่งขันได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งคณะกรรมการและผู้เข้าร่วมงานว่าเป็น “พลังสร้างสรรค์จากถนนสู่เวทีใหญ่” ที่สะท้อนศักยภาพคนไทยซึ่งพร้อมจะก้าวสู่โอกาสใหม่ในระดับอาชีพ

สำหรับ รางวัลที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับในการประกวดครั้งนี้ แบ่งเป็น ประเภทเดี่ยว รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงิน 60,000 บาท  รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 40,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงิน 20,000 บาท ส่วนประเภทวง รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงิน 120,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 80,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงิน 40,000 บาท ตามลำดับ

โดยผู้ชนะเลิศทั้งประเภทเดี่ยวและประเภทวง จะได้รับถ้วยรางวัลจากประธานองคมนตรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับถ้วยรางวัลจากปลัดกระทรวง พม.

สำหรับถ้วยรางวัลออกแบบโดยใช้ “กุญแจซอล” เป็นแกนหลัก สื่อถึงสัญลักษณ์ทางดนตรีที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางตามฝันบนถนนสายศิลป์ เสริมด้วยรูปทรงเกลียวสื่อถึงพลังแห่งการก้าวหน้าและการมุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด ปลายยอดประดับ “ดวงดาว” แทนเป้าหมายและความฝันที่ศิลปินทุกคนใฝ่ถึง โดยในการออกแบบรูป ดวงดาว (Star) หมายถึงความโดดเด่น ความสำเร็จ และการยอมรับใน
เวทีดนตรี ขณะที่ โครงสร้างเกลียว (Spiral Form) ได้แรงบันดาลใจจากกุญแจซอล สื่อถึงการเคลื่อนไหว การพัฒนา และการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ และฐานรางวัลสื่อถึงความมั่นคง ความพยายาม และการสนับสนุนจากสังคม ตัวถ้วยเน้นโทนสีทอง สื่อถึงความรุ่งโรจน์ความสำเร็จ และเกียรติยศของผู้ชนะเลิศ เปรียบเสมือนการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้แสดงความสามารถทุกคนก้าวสู่การเป็นแบบอย่างที่ภาคภูมิใจของสังคม

นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า โครงการ “Street to Star” เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ภายใต้การขับเคลื่อนตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 และการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีความสามารถ
เพื่อยกระดับผู้ที่ใช้การแสดงดนตรี ศิลปะ หรือการร้องเพลงในการดำรงชีวิต ให้ได้รับการยอมรับในสังคมและก้าวสู่เส้นทางที่มั่นคง

ปัจจุบันมีผู้แสดงความสามารถที่ขึ้นทะเบียนกว่า 15,000 รายทั่วประเทศ โดยกว่าหนึ่งในสามเป็นนักดนตรีสมัครเล่นและอาชีพ การประกวดครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดพื้นที่แสดงศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจแก่ทั้งผู้เข้าแข่งขันและประชาชนทั่วไป

“ทุกคนที่ขึ้นเวทีในวันนี้คือดวงดาวที่ส่องประกายด้วยความสามารถและความพยายาม ไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ให้ตนเอง แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมเห็นคุณค่าของความรู้ ความสามารถ และศิลปวัฒนธรรมที่งดงามของไทย” นายกันตพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงค่ำ ได้มีการประกาศผลการประกวด ซึ่งผู้ชนะเลิศประเภทวงได้แก่ วง PK.Fusion Band เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ Ain’t no sunshine ในวงประกอบด้วย นางสาวพิมพ์ชนก เต็มใจ และ นายวัฒนา ทองคำ รับเงินรางวัล 120,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล,รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่วงทโมน เพลงที่ใช้ในการประกวด เป็นเพลงแต่งเอง (เพลงบักเซียงน้อย) ในวงประกอบด้วย
เด็กหญิงจิรันธนิน เภสัชชะ, เด็กชายณัฐพัฒน์ เฉลิมศิลป์, เด็กชายปัณณวิชญ์ เนาวบุตร และนายคีตา วารินบุรี รับเงินรางวัล 80,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล ,รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่วง Red Ribbon เพลงที่ใช้คือเพลง อยากเจอ ในวงประกอบด้วย เด็กชายภคพล มุทราอิศ,เด็กชายนคราทร แซ่ซู้, เด็กชายลูอิส รวินทร์ คัปปุชโช, นายรตน ฮิลเดอบรานด์ และ นายชญาพิพรรธน์ นิยมธรรม รับเงินรางวัล 40,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัล

ส่วนประเภทเดี่ยว ผู้ชนะเลิศได้แก่ นางสาวทัตพิชา กิตติพนังกุล เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ วาดไว้ รับเงินราง 60,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล ,รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาววัลภา ลครพล เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ สาวเพชรบุรี รับเงินรางวัล 40,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เด็กหญิงศุภสุดา รอดคุ้ม เพลงที่ใช้ในการประกวดคือ เพื่อนรัก รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

นอกจากนี้ยังมีรางวัลเชิดชูศิลปวัฒนธรรม มอบพิเศษให้กับวงรองแง็ง สวนกวีพื้นบ้าน จ.กระบี่ รับเงินรางวัล 10,000 บาท






























กำลังโหลดความคิดเห็น