โฆษกกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สํารวจทางเท้าใหม่ “กระเบื้องลายดอกโบตั๋น” บนถนนเยาวราช ชูอัตลักษณ์ของย่านไชน่าทาวน์ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้(2 ก.ค. 67) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ เจ้าหน้าที่สำนักการโยธาและผู้ออกแบบจาก SCG ร่วมกันลงพื้นที่สํารวจทางเท้าใหม่ลายดอกโบตั๋นบนถนนเยาวราช พร้อมเปิดเผยที่มาของการปรับปรุงในครั้งนี้
นายเอกวรัญญู โฆษก กทม. กล่าวว่า เป้าหมายหลักของการลงพื้นที่ในวันนี้คือการสํารวจเส้นทางเดินเท้าย่านถนนเยาวราชและโครงการท่อจัดเก็บสายสื่อสารเขตสัมพันธวงศ์ โดยการเปลี่ยนพื้นกระเบื้องจากลายเดิมคือเกล็ดมังกรเป็นลาย “ดอกโบตั๋น” เนื่องจากของเก่ามีการใช้นานนานมากแล้ว อีกทั้งดอกโบตั๋นถือได้ว่าเป็นดอกไม้มงคลของชาวจีนที่แสดงถึงความมั่งคั่ง รํ่ารวย ซื้อสัตย์และโชคลาภ ซึ่งมีความเข้ากันกับถนนเยาวราชที่เรียกได้ว่าเป็นไชน่าทาวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และไม่เพียงแค่เป็นการปรับปรุงทางเดินเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ด้วยขนาดทางเดินเท้าที่กว้างขึ้น ก่อสร้างด้วยมาตรฐานใหม่คอนกรีตเสริมเหล็กและการออกแบบให้เป็น Universal Design ที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ใช้งาน ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงคนพิการ เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังมีผิวที่หยาบขึ้น ทำให้ไม่ลื่น ทำความสะอาดง่าย เพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย
สําหรับการปรับปรุงทางเท้าบนถนนยาวราชเริ่มขึ้นตั้งแต่ที่วงเวียนโอเดียนไปจนถึงย่านวังบูรพาช่วงคลองโอ่งอ่าง รวมระยะทางรวม 1.5 กิโลเมตร
นายเอกวรัญญู โฆษก กทม. กล่าวต่ออีกว่า การปรับปรุงในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะกระแส MV เพลงของ “ลิซ่า” เพราะทาง กทม. ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่มกราคม 2567 ที่ผ่านมา คาดว่าจะเสร็จในช่ววปลายปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบ “ลิซ่า” ที่ปลุกเยาวราชให้ลุกเป็นไฟและรู้จักไปทั่วโลก ซึ่งทาง กทม. มีการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาและเชื่อว่าทางเท้าใหม่ เมื่อปรับปรุงเสร็จก็จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติรวมถึงผู้คนที่ใช้ชีวิตและทำมาค้าขายในเยาวราช
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับปรุงไปถึงบริเวณสตรีทฟู้ดจะส่งผลกระทบหรือไม่ ทาง โฆษก กทม. ระบุว่า เมื่อดําเนินการไปถึงบริเวณดังกล่าวคงจะต้องหยุดการค้าขายเป็นช่วงๆ โดยขอความร่วมมือกับทางผู้ค้าด้วยการกําหนดระยะเวลา เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 1-2 วัน ซึ่งไม่น่ามีปัญหา
ทั้งนี้ กทม. มีแผนปรับปรุงทางเท้าทั่วกรุงเทพฯ โดยเน้นการชูอัตลักษณ์ย่านๆ นั้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงดําเนินการติดป้ายเตือนต่างๆ และไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของชาวกรุงเทพมหานครและนักท่องเที่ยว