xs
xsm
sm
md
lg

กทม. ร่วมเสนอแนวทางการทำงาน หวังยกระดับงานด้านความเสี่ยงและภัยพิบัติกับ TNDR ทั้ง 17 มหาวิทยาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



(15 ธ.ค.66) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมบรรยายพิเศษบทบาทและแนวทางการทำงานด้านการจัดการภัยพิบัติร่วมกับเครือข่าย TNDR ทั้ง 17 มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลไกที่จะสามารถทำงานร่วมกับท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น รวมถึงนำเสนอระบบข้อมูลของกรุงเทพมหานครที่จะเป็นฐานข้อมูลเพื่อทำงานวิจัยเมือง ในการประชุมเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (Thai Network for Disaster Resilience : TNDR) ประจำปี 2566 ณ ห้องประชุมใหญ่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ทั้งนี้ การประชุมเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย 17 มหาวิทยาลัย ประจำปี 2566 จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกเครือข่าย TNDR ทั้ง 17 มหาวิทยาลัย ได้รับฟัง แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแนวทางการพัฒนาการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยร่วมกัน อีกทั้งยังเผยทิศทางการทำงานปีหน้า เน้นบริการข้อมูลองค์ความรู้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชูการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมป้อนภาคส่วนต่าง ๆ ย้ำเร่งสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ UNDRR ขับเคลื่อนเรื่อง MCR2030 และจับมือ ADPC สนับสนุนการฝึกอบรมและงานด้านวิชาการต่างๆ พร้อมผนึกความร่วมมือกรุงเทพมหานครและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หวังยกระดับการพัฒนาขีดความสามารถด้านการจัดการความเสี่ยงและภัยพิบัติของประเทศไทย ซึ่งการประชุมครั้งนี้นอกจากรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังมี นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้แทนจากศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) ร่วมนำเสนอบทบาทและแนวทางการทำงานด้านการจัดการภัยพิบัติร่วมกับเครือข่าย TNDR ทั้ง 17 มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การประชุมเครือข่าย TNDR ประจำปีครั้งนี้ ตัวแทนจาก 17 มหาวิทยาลัย ก็ได้ร่วมนำเสนอผลงานด้านการจัดการภัยพิบัติในส่วนของแต่ละมหาวิทยาลัยที่จะเร่งผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกันอาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอเรื่องการสร้างภาคีเครือข่ายด้านระบบการสื่อสารในภาวะวิกฤต , มหาวิทยาลัยนเรศวร นำเสนอการวิเคราะห์แหล่งกำเนิดและประเมินความเข้มข้นของ PM2.5 จากข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศด้วยปัญญาประดิษฐ์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง , การวิเคราะห์เชิงพื้นที่ระหว่างความเข้มข้นของ PM2.5 จากข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและแหล่งกำเนิดด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ และการพัฒนาระบบติดตามเส้นทางและโดรนสำหรับลาดตระเวนในพื้นที่ไฟป่า เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจจากเครือข่ายภาครัฐต่าง ๆ ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมครั้งนี้ด้วย อาทิ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กรมโยธาธิการและผังเมือง สภากาชาดไทย สำนักงานเพื่อการลดความเสี่ยงแห่งสหประชาชาติ (UNDRR) ฯลฯ








กำลังโหลดความคิดเห็น