“ชลน่าน” ตรวจเยี่ยมกรมการแพทย์เป็นกรมแรก กำชับถ่ายทอดวิชาการ เทคโนโลยี ช่วย รพ.สธ.ขับเคลื่อนงานบริการ ฝากขับเคลื่อน 5 งานควิกวิน ทั้ง รพ.กทม. 50 เขต 50 รพ. กระจายงานยาเสพติดลงพื้นที่ ลุยสร้างรอบรู้มะเร็ง ตั้งสถานชีวาภิบาล และใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสูงมาสร้างเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมกรมการแพทย์เป็นกรมแรก ว่า กรมการแพทย์เป็นตัวแทนของ สธ. ไม่ว่าสำเร็จหรือล้มเหลว ก็จะเป็นภาพของกระทรวงด้วย นอกจากภารกิจให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรมการแพทย์เป็นกรมวิชาการ ฝากให้หาช่องทางประสานการถ่ายทอดงานวิชาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ไปยังหน่วยบริการอื่น โดยเฉพาะ รพ.สังกัดสำนักงานปลัด สธ. ที่อยู่ทั่วประเทศก็จะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะยุคใหม่เราใช้ 1 จังหวัด 1 รพ. ไม่ว่าสังกัดหน่วยงานไหน แต่ความรู้สึกของประชาชนคือ เป็น รพ.ของประชาชน โดยเฉพาะ กทม.ที่เป็นเมืองใหญ่ กรมการแพทย์เป็นเสาหลัก 1 ใน 5 เสาที่ดูแล
“ปัญหาการให้บริการประชาชนในเขตเมืองมีปัญหามาก มีความซับซ้อนและโครงสร้างของการดูแลมิติสุขภาพ ไม่ได้ขึ้นกับ สธ.ที่เดียว มีหลายหน่วยงานในภาคส่วนมาทำงานร่วมกัน มีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทำให้ทำงานได้ยุ่งยากมาก” นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากให้ขับเคลื่อน มี 5 เรื่อง คือ 1. ขับเคลื่อน รพ.กทม. 50 เขต 50 รพ. ที่เป็นนโยบายทางการเมือง เวลาขับเคลื่อนให้นึกถึงประชาชนเป็นหลัก ซึ่งความซับซ้อนของประชากรใน กทม.ไม่เหมือนต่างจังหวัด มีประชากร 5 ล้านคนตามทะเบียนราษฎร์ แต่มีคนอยู่ที่นี่ 12 ล้านคน ดังนั้น อีก 7 ล้านคนมีใครดูแล จึงจำเป็นที่จะต้องกำหนด หน่วยบริการที่มารองรับที่อุดช่องว่าง ในส่วนของ secondary care และ intermediate Care ให้มีดูแลประชาชนใน กทม. จะเริ่มที่ดอนเมืองแห่งแรก ซึ่งติดตามมา 4 สัปดาห์ก็มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ
2. ภารกิจหลักที่นายกฯ ให้ความสำคัญ คือ ยาเสพติด ซึ่งเราประกาศนโยบายและควิกวินด้านจิตเวชและยาเสพติด โดยกรมการแพทย์ก็ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ขอให้ขยายไปในเครือข่ายระดับพื้นที่จังหวัด 3. มะเร็ง กรมการแพทย์มีสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ รพ.มะเร็งในต่างจังหวัด จะต้องเชื่อมโยงกับเครือข่าย ซึ่งเราออกควิกวินมารองรับ เช่น การให้วัคซีนเอชพีวี 1 ล้านโดส เป็นการสร้างกิมมิค แต่เราอยากเห็นการสร้างความตระหนักรู้ พฤติกรรมป้องกันดูแลไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงกับมะเร็ง ไม่ใช่ฉีดแล้วก็หายไป และอีกปีก็มาฉีดใหม่ งานก็จะไม่จบ
4. สถานชีวาภิบาลและการดูแลผู้สูงอายุ หลายเรื่องผสมผสานกับหน่วยงานอื่นได้ หลายครั้งที่ตนลงพื้นที่ พบผู้เสียชีวิตจากการหกล้ม หากไม่ล้มก็จะมีอายุยืนยาวได้ จึงต้องขับเคลื่อนการดูแลผู้สูงอายุในมิติต่างๆ ได้อย่างไร ต้องดูแลที่อยู่ ที่กิน ที่นอนของผู้สูงวัย โดยเฉพาะในห้องน้ำทีมีโอกาสลื่นล้มสูง และ 5. High medical Technology เราตั้งเป้าว่าทำอย่างไรให้มิติสุขภาพสร้างความมั่งคั่งให้แก่ประเทศ หรือ Health foe Wealth เรามีศักยภาพส่งเรื่องของ medical Club service Hub ก็อยากให้ขับเคลื่อนตรงนี้
“เข้าใจว่า ตรงนี้งานอาจจะหนัก แต่ไม่ได้หนักเพื่อใคร แต่หนักเพื่อพี่น้องประชาชน เชื่อว่า การมาทำงานตรงนี้ทุกคนมีพื้นฐานของวิธีคิดที่มองโลกในแง่ดี ต้องการดูแลคนอื่น ขอฝากถึงพระราชดํารัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ว่า ผู้ให้บริการทางการแพทย์มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อว่า ทุกคนมีดี อย่าได้ดูถูกใคร ใช้เป็นแนวทางการทำงาน ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการปะทะกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ” นพ.ชลน่าน กล่าว