รพ.ประจวบฯ รองรับผ่าตัดสมอง-ข้อสะโพกฟรี "สิทธิบัตรทอง" พร้อมเปิดนอกเวลา ช่วยลดรอวันผ่าตัด ไม่ต้องส่งต่อ ลดค่าใช้จ่าย เผยเกือบ 3 ปี ผ่าตัดสมอง 569 ราย ข้อสะโพก-เข่าเทียม 258 ราย
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การผ่าตัดสมองและผ่าตัดข้อสะโพก เป็นหัตถการที่ผู้ป่วยและญาติมักกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะต้องใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการรักษาสูง แต่จากการลงพื้นที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 22-23 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าสามารถรองรับให้บริการผู้ใช้สิทธิบัตรทองได้ โดยไม่ต้องส่งต่อไป รพ.ส่วนกลาง ทำให้เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที หลังผ่าตัดสามารถฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ประหยัดค่าเดินทาง มีเจ้าหน้าที่ตามไปฟื้นฟูผู้ป่วยที่บ้านอย่างต่อเนื่อง
“สิทธิบัตรทองครอบคลุมได้ทุกโรค-ทุกกรณีที่ สปสช.กำหนด ต่อให้เป็นค่ารักษาที่แพง การรักษาที่ยาก หรือมีค่าใช้จ่ายสูง หากประชาชนมีความสงสัยก็สามารถประสานหน่วยบริการเพื่อที่จะได้รับคำชี้แจงได้ โดยโทรไปปรึกษา สปสช.เขต หรือ 1330” นพ.อภิชาติ กล่าว
ด้าน นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ประจวบฯ มีพื้นที่ระยะทางยาว อำเภอที่อยู่ไกลที่สุดคือ อ.บางสะพานน้อย ไกลถึง 120 กม. จึงจำเป็นที่จะต้องยกระดับ รพ.ประจวบฯ และการรักษาพยาบาล ทั้งในกรณีฉุกเฉินและกรณีซับซ้อน เพิ่มการผ่าตัดนอกเวลาราชการเพื่อลดวันรอคอยผ่าตัด ปัจจุบัน รพ.ประจวบฯ เป็น รพ.ทั่วไปขนาด 278 เตียง มีผู้ป่วยในเฉลี่ยประมาณ 250 คน/วัน อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 89.34% มีผู้ป่วยรับผ่าตัดแผนกศัลยกรรมระบบประสาทย้อนหลังตั้งแต่ปี 2564 - 2566 มีจำนวน 569 เคส ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกและข้อเข่าเทียม 258 เคส แผนกจักษุผ่าตัดตาต้อกระจกที่มีจำนวนผู้ป่วยในมากเป็นอันดับหนึ่ง ช่วง 3 ปีผ่าตัดไปแล้วกว่า 1,948 เคส
“จากตัวเลขเหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้สิทธิบัตรทองเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ยังทำให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบอาชีพ สร้างรายได้แก่ครอบครัวโดยไม่ต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วยอีกต่อไป” นพ.อารักษ์ กล่าว
นางณัฏฐ์ฐิพันธุ์ พิมพันธุ์ดี อายุ 73 ปี มีอาการกระดูกต้นขาข้างขวาหักจากการประสบอุบัติเหตุ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้านขวาเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กล่าวว่า ปัจจุบันสามารถลุกเดินใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบเป็นปกติ แต่ต้องฟื้นฟูทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง มีการฝึกการเดินโดยใช้อุปกรณ์กระตุ้น รวมทั้งฝึกบริหารกล้ามเนื้อขา เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา กระดกข้อเท้าลุกนั่ง การที่มี รพ.ที่พร้อมให้การผ่าตัดเป็นสิ่งที่ดีมาก ตอนรักษาอยู่ รพ.มา 13 วัน ลูกหลานไม่ต้องเดือดร้อนไปส่งต่อที่อื่น เจ้าหน้าที่ก็ซัปพอร์ตอย่างดี ตอนไปถึงวันแรกยังไม่มีห้องพิเศษ แต่พอมีห้องว่างเขาก็จัดให้ทันที และข้อสะโพกเทียมที่ผ่าตัดมาสามารถใช้งานได้เหมือนข้อสะโพกปกติไม่มีอาการปวดหลังผ่าตัดเลย