xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.ประชุมกลุ่มรัฐมนตรี สธ. FPGH7 เสนอ 4 ประเด็นรับมือความท้าทายด้านสุขภาพโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปลัด สธ. ประชุมรัฐมนตรี สธ.กลุ่ม FPGH7 ประเด็น เสนอ 4 มิติหลักรับมือความท้าทายด้านสุขภาพโลก เน้นเท่าเทียมด้านสุขภาพและระบบหลักประกันฯ มีระบบสุขภาพประเทศเข้มแข็ง แบ่งปันข้อมูลระหว่างประเทศ และสร้างความเข้มแข็งของกลุ่ม FPGH

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นตัวแทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศสมาชิกกลุ่ม Foreign Policy and Global Health Initiative : FPGH 7 ประเทศ ประกอบด้วย นอร์เวย์ ฝรั่งเศส บราซิล อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เซเนกัล และไทย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งการประชุมครั้งนี้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพในฐานะประธานกลุ่ม FPGH

นพ.โอภาสกล่าวว่า การประชุมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ในประเด็นสำคัญด้านสาธารณสุขภายใต้หัวข้อ “กลับสู่สามัญ – การจัดการความท้าทายด้านสาธารณสุขโลกในบริบทของนโยบายต่างประเทศ” ซึ่งตอนได้กล่าวในที่ประชุมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความสำคัญของการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพโลกในบริบทของนโยบายต่างประเทศ และได้เสนอให้กลุ่ม FPGH คำนึงถึง 4 มิติหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1.สนับสนุนความเท่าเทียมด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ ซึ่งจะช่วยรับประกันว่าประชาชนทุกคน รวมทั้งกลุ่มชายขอบและกลุ่มเปราะบางจะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้ 2.การมีระบบสุขภาพของประเทศที่เข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมโรคระบาด รวมถึงความร่วมมือด้านสาธารณสุขระดับโลกที่เข้มแข็ง ทำให้เกิดความมั่นคงด้านสุขภาพในแต่ละประเทศ โดยไทยได้แสดงเจตนารมณ์สนับสนุนและเข้าร่วมกระบวนการการเจรจา Intergovernmental Negotiating Body (INB) เพื่อทำหน้าที่เจรจาอนุสัญญา ข้อตกลง หรือเครื่องมือระหว่างประเทศอื่นๆ ขององค์การอนามัยโลก ในด้านการเตรียมความพร้อมและรับมือกับการระบาดของโรค และการแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2005


3. การแบ่งปันข้อมูลสำคัญระหว่างประเทศอย่างทันท่วงที เช่น การส่งต่อเชื้อก่อโรค ข้อมูลลำดับเบสในจีโนม รวมถึงการแบ่งปันวิธีการและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคของแต่ละประเทศ และ 4.ประเทศไทยยึดมั่นที่จะร่วมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่ม FPGH ในการแสดงบทบาทนำในเวทีสาธารณสุขโลก และการรวมพลังระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและ สธ. ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จตามความมุ่งหมายของ FPGH เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาและนำไปสู่การผลักดันข้อมติตามที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติต่อไป นอกจากนี้ ยังได้หารือทวิภาคีกับ Dr. Chris Whitty หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ สหราชอาณาจักร ในประเด็นบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สังคมผู้สูงอายุ และระบบการแพทย์ทางไกล






กำลังโหลดความคิดเห็น