กรมแพทย์แผนไทยฯ ชู "กุหลาบมอญ" ใช้ดูแลสุขภาพ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ เผยทำเป็น “น้ำกระสายยา” เพื่อเข้ายา เสริมฤทธิ์ ตำรับยาแก้ไข้ ทำอาหารแต่งสีแต่งกลิ่น ช่วยบำรุงกำลัง แก้กระหาย คลายร้อน ทั้งยังทำเครื่องหอม น้ำอบ น้ำปรุง ประทินผิว เตรียมจัดใหญ่มหกรรมสมุนไพรฯ ปลาย มิ ย.นี้
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีการนำ "กุหลาบมอญ" มาใช้เป็น "น้ำกระสายยา" เรียกว่า "น้ำดอกไม้เทศ" ทางเภสัชกรรมแผนไทยนำน้ำกระสายยามาใช้แทรกยาเพื่อช่วยให้กินยาง่ายขึ้น หรือเสริมฤทธิ์ของยาให้มีสรรพคุณดีขึ้น หรือใช้เป็นเครื่องแทรกยาเพื่อช่วยให้ปรุงเป็นรูปแบบยาที่ต้องการ น้ำกระสายยามีหลากหลาย เช่น น้ำต้มสุก น้ำผึ้ง น้ำดอกไม้เทศ น้ำดอกไม้ น้ำขิงต้ม เป็นต้น โดยน้ำกระสายยาที่ได้จากกุหลาบมอญมักนำมาใช้ในตำรับยาแก้ไข้ แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง
ช่วงฤดูร้อนสามารถนำดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมาใช้ดูแลสุขภาพได้ กุหลาบมอญจึงเป็นทางเลือกนำมาปรุงเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และ เครื่องสำอาง โดยนำกลีบดอกมาใช้ประกอบอาหาร หรือเครื่องดื่ม ใช้แต่งสี แต่งกลิ่นอาหารได้ เช่น ข้าวเกรียบปากหม้อกุหลาบมอญ ข้าวแช่ หรือน้ำกุหลาบมอญ มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ แก้กระหาย แก้อ่อนเพลีย บํารุงกําลังและเป็นยาระบายอ่อนๆ
ส่วนเครื่องสำอาง ทำเป็นเครื่องหอมกุหลาบมอญ น้ำอบ น้ำปรุง สรรพคุณมีกลิ่นหอม ช่วยคลายเครียด , แป้งร่ำผัดหน้าให้สวยงาม เพิ่มความหอมให้ผิวกาย ลดอาการผื่นคัน เพราะมีส่วนผสมของยาแผนไทยแทบทั้งสิ้น ซึ่งการทำแป้งร่ำ จะนำแป้งละเอียดมาอบในเครื่องอบร่ำ เติมน้ำลอยดอกไม้หรือน้ำอบไทย เมื่อเนื้อแป้งเหลวกำลังดีให้หยอดแป้งร่ำลงบนใบตองให้เป็นก้อนเล็กๆ ผึ่งไว้ในร่มจนแห้งสนิท แล้วเก็บใส่โถปิดฝาอบไว้นำมาใช้ได้ตามต้องการ และทำเป็นบุหงารำไป มีกลิ่นหอมสดชื่น ช่วยคลายเครียด และยังนำไปใช้ในการอบเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอมได้อีกด้วย
นพ.ธงชัย กล่าวว่า กรมฯ ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 20 "สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย" วันที่ 28 มิ.ย. – 2 ก.ค. 2566 ณ ฮอลล์ 11 - 12 อิมแพคเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ในงานมีกิจกรรมหลากหลาย มีการนำฐานรากภูมิปัญญาสู่การพัฒนาสมุนไพรไทย เพื่อเศรษฐกิจ 4 ภูมิภาค นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับเมนูอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 4 ภาค กัญชาทางการแพทย์ นวดไทย คลินิกให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ได้แก่ คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกการแพทย์แผนจีน และการแพทย์ทางเลือก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากประชาชนสนใจการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรอย่างปลอดภัย หรือนำมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สามารถเข้าร่วมงานได้