xs
xsm
sm
md
lg

การเปิดเสรีกัญชาไม่ได้ทำให้คนเป็นโรคจิตมากขึ้นและกัญชาใช้รักษาบรรเทาโรคจิตได้ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์
หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

มีความพยายามโจมตีกัญชาว่าทำให้เกิดโรคจิต เพื่อทำให้แพทย์และประชาชนไม่กล้าใช้กัญชา แต่การวิจัยล่าสุดในหลายประเทศพบว่า การเปิดเสรีกัญชาไม่ได้ทำให้คนเป็นโรคจิตมากขึ้น และกัญชามีสรรพคุณใช้รักษาบรรเทาโรคจิตได้ดี ประชาชนจึงควรพิจารณาฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน จะได้ไม่ถูกหลอก จนเห็น “ดอกบัว” เป็น “กงจักร”

การเมืองเรื่องกัญชา:

มีการกล่าวหากัญชาว่าเป็นยาเสพติด และทำให้เกิดโรคจิต มาตั้งแต่เมื่อ 80 ปีก่อน สร้างหนังเผยแพร่ ตอกย้ำบ่อยๆ พอคนหลงเชื่อ ก็ออกกฎหมายจัดให้กัญชาเป็นยาเสพติด เพื่อขจัดคู่แข่งสินค้าปิโตรเคมี [1]

ปัจจุบันยังคงมีการผลิตข้อมูลและงานวิจัยที่มีอคติ และใช้สื่อสารมวลชนประโคมข่าวโจมตีว่า กัญชาทำให้เป็นโรคจิต อย่างต่อเนื่อง ฝังลึกในหัวประชาชน เพื่อทำให้แพทย์และประชาชนไม่กล้าใช้กัญชา

คนไหนยึดกุมสื่อได้ คนนั้น คือ ผู้ “ผูกขาดความรู้”

เมื่อประชาชนรู้ว่าตนถูกหลอก สังคมจึงเปลี่ยน:

อินเตอร์เน็ต ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าถึงความจริง พบว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด และใช้รักษาโรคได้จำนวนมาก

เมื่อรู้ว่าถูกหลอก จึงกดดันให้นักการเมืองแก้กฎหมายยาเสพติด เอาผู้ป่วยออกจากคุก เปิดโอกาสให้คนเข้าถึงกัญชารักษาโรคได้กว้างขวาง เริ่มต้นที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 27 ปีก่อน

ฝ่ายต่อต้านกัญชาจึงออกมาเตือนว่า ถ้าคนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้นเช่นนี้ ประชาชนจะเป็นโรคจิตมากขึ้น

ผลการวิจัยล่าสุดของสหรัฐพบว่า นโยบายเสรีกัญชา “ไม่ได้” ทำให้ความชุกของโรคจิตเพิ่มขึ้น:

การแก้กฎหมายกัญชาของแต่ละมลรัฐ ในสหรัฐ มีระดับความเสรีแตกต่างกัน ดังนี้

ในปี พ.ศ. 2562 กัญชายังคงผิดกฎหมายใน 12 มลรัฐ ให้ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น 16 มลรัฐ และให้ปลูกและใช้แบบนันทนาการได้ 22 มลรัฐ บางมลรัฐอนุญาตให้มีร้านจำหน่ายกัญชาทั่วไป

แต่ทุกมลรัฐสามารถใช้ “ซีบีดี” ได้อย่างเสรี

งานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2565 เพื่อตอบคำถามว่า การเปิดเสรีกัญชามีผลทำให้คนเป็นโรคจิตเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวบรวมข้อมูลจากทุกมลรัฐ ทั่วประเทศ จำนวนมากถึง 63 ล้านคน ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป

ผลการวิจัยพบว่า การเปิดเสรีกัญชา ไม่ได้ทำให้คนเป็นโรคจิตมากขึ้น

ความชุกของการเป็นโรคจิตของมลรัฐที่เปิดเสรีระดับต่างๆกัน มีอัตรา “ใกล้เคียงกัน” นั่นคือ มีเพียงร้อยละ 0.3 ถึง 0.5 เท่านั้น [2]

ซึ่งเป็นอัตราการเกิดโรคจิตของประชากรทั่วไป

ผลการวิจัยล่าสุดของแคนาดาพบว่า นโยบายเปิดเสรีกัญชา “ไม่ได้” ทำให้ผู้ป่วยโรคจิตไปห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้น:

ข้อโจมตีอีกประการหนึ่งคือ คนเป็นโรคจิตที่ใช้กัญชาจะมีอาการแย่ลง ต้องไปรับบริการมากขึ้น

ประเทศแคนาดา แก้กฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้เมื่อปี พ.ศ. 2544 และเปิดเสรีกัญชาให้ใช้แบบนันทนาการได้ เมื่อปี พ.ศ.2561 การศึกษาโดยใช้ข้อมูลจากสองจังหวัด คือ อัลเบอร์ตา และออนตาริโอ ซึ่งมีประชากรรวม 19 ล้านคน เก็บสถิติการมาห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทุกแห่ง

ผลการศึกษา พบว่า สถิติการมาห้องเพราะปัญหาโรคจิต หลังการเปิดเสรีกัญชา “ไม่ได้” เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด [3]

สถิติความชุกโรคจิต ในประเทศไทย:

สถิติเมื่อปี พ.ศ.2556 (ก่อนแก้กฎหมายกัญชา) พบว่า อัตราความชุก ของโรคจิตในประเทศไทย เท่ากับร้อยละ 0.6 ถึง 0.7 [4]

และสถิติปี พ.ศ. 2565 (หลังแก้กฎหมายกัญชา) พบว่า มีผู้ป่วยโรคจิต เท่ากับ ร้อยละ 0.50 [5]

แสดงว่า ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคจิตใกล้เคียงเดิม หรือลดลงเล็กน้อย !

กัญชามีสรรพคุณรักษาบรรเทาโรคจิต:

นอกจากนี้ยังพบว่า กัญชามีศักยภาพในการรักษาบรรเทาโรคจิตได้ดีอีกด้วย

ปัจจุบันมีงานวิจัย เรื่องสรรพคุณของ “ซีบีดี” ในการรักษาโรคจิต ที่ตีพิมพ์เผยแพร่แล้วอย่างน้อยจำนวน 3 งานวิจัย ดังนี้

งานวิจัยแรกสรุปว่า “ซีบีดี” ขนาดสูง 800 มิลลิกรัมต่อวัน มีสรรพคุณในการรักษาโรคจิตได้ดี เท่ากับยาแผนปัจจุบัน แต่มีอาการข้างเคียง น้อยกว่า [6]

งานวิจัยที่สองสรุปว่า การให้ “ซีบีดี” ขนาด 1,000 มิลิกรัมต่อวัน ร่วมไปกับยาแผนปัจจุบัน จะได้ผล “ดีกว่า” การใช้ยาแผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว [7]

ปัจจุบันมีงานวิจัยเรื่องสรรพคุณของ “ซีบีดี” ในการรักษาโรคจิต ที่กำลังดำเนินการอยู่ อย่างน้อยจำนวน 7 งานวิจัย [8]

ที่จริงแล้ว ควรมีการศึกษา การใช้กัญชาแบบรวมๆ ที่มีทั้ง “ทีเอ็ชซี” และ “ซีบีดี” และสารอื่นๆในกัญชา ว่าสรรพคุณในการรักษาบรรเทาโรคจิตได้ดีเพียงใด เพราะจะทำให้ประชาชนพึ่งตนเองได้มากขึ้น [9]

ดังกรณีศึกษาต่อไปนี้

กรณีศึกษา[10]:

...คุณโกเมน ป่วยเป็นโรคจิต ชนิดอารมณ์สองขั้ว รักษาโดยกินยาแผนปัจจุบันหลายชนิด แต่อาการกลับทรุดลง ลุกไม่ได้ ทำงานทำการไม่ได้ หากินไม่ได้ มือสั่นไหว กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยู่นาน 1 เดือน เขารับสภาพนี้ไม่ได้ จึงหันมาสูบกัญชา ปรากฏว่า อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนมีอารมณ์พุ่ง พอสูบกัญชาแล้ว อาการจะอ่อนลง ตอนมีอาการซึมเศร้า พอสูบกัญชาแล้วอารมณ์จะดีขึ้น สามารถไปออกกำลังกายในยิมได้นานถึงสามชั่วโมง ร่างกายแข็งแรง ตอนนี้สามารถลดยาจิตเวชลงได้ เหลือเพียงชนิดเดียว...

คุณโกเมน ป่วยเป็นโรคจิต ชนิดอารมณ์สองขั้ว
ศาสตราจารย์ คาร์ล ฮาร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านยาเสพติด ที่มีชื่อเสียงมาก แห่งมหาวิทยาลัยโคลมเบีย สหรัฐ ยืนยันว่า กัญชาไม่ได้ทำให้เป็นโรคจิต คนเป็นโรคจิตหรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคจิตมีแนวโน้มจะใช้กัญชา เพราะเขาใช้แล้วอาการดีขึ้น [11]

ข้อคิดปิดท้าย:

ความพยายามโจมตีกัญชา โดยใช้ข่าวลวงและข้อมูลที่มีอคติ มีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ประชาชนเห็น “ดอกบัว” เป็น “กรงจักร”

ประชาชนจึงพึงรับฟังข้อมูลรอบด้าน และอย่าให้ใครมาหลอกลวงได้อีก

เอกสารอ้างอิง:
[1] ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์. “หมอปัตพงษ์” ปลุกประชาชนไทยทุกคนปกป้องสิทธิปลูกกัญชาไว้รักษาโรค. ผู้จัดการออนไลน์. เผยแพร่: 30 เม.ย. 2566.
https://mgronline.com/qol/detail/9660000039766

[2] PMID: 36696111

[3] PMID: 35019734

[4] https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmht/article/view/142991

[5] https://tinyurl.com/5n6t39za (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พ.ย. 2565)

[6] PMID: 22832859

[7] PMID: 29241357

[8] PMID: 34255100

[9] ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์. งานวิจัยเรื่อง กัญชากับการรักษาบรรเทาโรคจิต.
ผู้จัดการออนไลน์.เผยแพร่: 6 พ.ย. 2565.
https://mgronline.com/qol/detail/9650000105953

[10] เครือข่ายประชาสังคมกัญชาฯ แถลงการณ์เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ไม่เลือกพรรคเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด. เผยแพร่: 7 พ.ค. 2566.
https://mgronline.com/politics/detail/9660000042018

[11] PMID: 26781550


กำลังโหลดความคิดเห็น