xs
xsm
sm
md
lg

แจงประกาศ 129 รพ.เปิดนอกเวลา ตามนโยบายห้องฉุกเฉินคุณภาพ ให้มีห้องแยกดูแล "ป่วยไม่เร่งด่วน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สปสช.แจงที่มาออกประกาศรายชื่อ 129 รพ.เปิดนอกเวลาราชการ เผยเป็น รพ.ขึ้นทะเบียนห้องฉุกเฉินคุณภาพ ต้องจัดห้องแยกดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรงหรือผู้ป่วยทั่วไปที่ต้องมานอกเวลาราชการ จากห้องแกเฉินดูแลกลุ่มวิกฤตสีแดงและเร่งด่วนสีเหลือง หลังพบผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน 60% ไม่ได้ฉุกเฉินจริง ช่วยเพิ่มเข้าถึงบริการ ลดขัดแย้งจากการตีความ

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีออกประกาศเรื่อง รายชื่อหน่วยบริการ 129 แห่งที่ให้บริการนอกเวลาราชการที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่น พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา ว่า รพ.ทั้ง 129 แห่งขึ้นทะเบียนตามเกณฑ์การประเมินศักยภาพหน่วยบริการ เพื่อให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินคุณภาพ โดย รพ.ต้องจัดแยกบริการ 2 ส่วน คือ 1.ห้องฉุกเฉินคุณภาพ เพื่อดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) และผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง) มีการจัดห้องแยกเฉพาะ พร้อมอุปกรณ์และบุคลากรตามแนวทางการจัดบริการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต และ 2.ห้องบริการแยกจากห้องฉุกเฉิน สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง กรณีมีเหตุสมควรและกรณีเจ็บป่วยทั่วไปที่มีความจำเป็นผู้มีสิทธิที่ต้องเข้ารับบริการนอกเวลาราชการ ต้องมีห้องเพื่อบริการที่แยกจากห้องฉุกเฉิน พร้อมอุปกรณ์และบุคลากรตามแนวทางของหน่วยบริการ ซึ่งต้องมีแพทย์ประจำเพื่อให้บริการ

"เรื่องนี้เป็นข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในปี 2562 ที่ให้เพิ่มรายการ “กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วนและเหตุสมควรอื่นกรณีเจ็บป่วยทั่วไป ที่เป็นความจำเป็นของประชาชนที่เข้ารับบริการนอกเวลาราชการ” ถือเป็นบริการใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ฉุกเฉินเร่งด่วน และเพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรงกรณีมีเหตุสมควร หรือผู้เจ็บป่วยทั่วไปที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิ มีสิทธิเข้ารับบริการนอกเวลาที่หน่วยบริการตามที่กำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" ทพ.อรรถพรกล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สปสช.จึงได้ออกประกาศดังกล่าวขึ้นมารองรับ พร้อมประกาศฯ ฉบับเพิ่มเติมที่เป็นการขยายจำนวน เพื่อกำหนดให้การเข้ารับบริการนอกเวลาราชการที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการ ซึ่งมีห้องบริการแยกจากห้องฉุกเฉิน ถือเป็นกรณีที่มีเหตุสมควร โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้หน่วยบริการ ในอัตรา 150 บาทต่อครั้งบริการ ที่ผ่านมา รพ.ที่ร่วมจัดบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินคุณภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตได้รับการดูแลที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง และผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับบริการนอกเวลาราชการ สามารถเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขที่จำเป็นได้ โดยมีกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดูแล จ่ายชดเชยค่าบริการ 150 บาทต่อครั้ง ลดความขัดแย้งและความรุนแรงระหว่างผู้รับบริการและผู้ให้บริการจากความเห็นไม่ตรงกันเรื่องของภาวะฉุกเฉิน

“จากข้อมูลพบว่าเกือบ 60% ของผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน เป็นผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉุกเฉินจริง ประเด็นนี้เราไม่โทษประชาชน เพราะความเข้าใจของประชาชนกับบุคลากรทางการแพทย์ไม่เหมือนกัน ประชาชนมีอาการปวดท้องปวดหัวก็รู้สึกว่าตัวเองป่วยฉุกเฉิน แต่คำว่าป่วยฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่หมายถึงการเจ็บป่วยที่เป็นอันตรายถึงชีวิต พอไปคัดกรองแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ฉุกเฉิน ก็อาจทำให้รอคิวนานเพื่อให้คนที่เจ็บป่วยรุนแรงกว่าได้รับการรักษาก่อน เกิดความไม่เข้าใจ หงุดหงิดโมโห จนกลายเป็นข้อพิพาท หรือบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาดูแลผู้ที่ไม่ฉุกเฉิน ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินตัวจริงได้รับการดูแลไม่เต็มที่” ทพ.อรรถพร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น