xs
xsm
sm
md
lg

พัฒนาระบบดูแล "เด็กสถานพินิจฯ-ศูนย์ฝึก" 98 แห่ง 1.2 หมื่นคน เข้าถึงบริการสุขภาพตามสิทธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.จับมือกรมพินิจฯ สปสช. พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับ "เด็กและเยาวชน" ในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ ทั่งประเทศรวม 98 แห่ง กว่า 12,000 คน เปิดลงทะเบียนหน่วยบริการประจำ สปสช.จ่ายเงินชดเชยบริการ เพิ่มการเข้าถึงการรักษา ส่งเสริมุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค ฟื้นฟู สุขภาพจิต ยาเสพติด ตามสิทธิหลักประกันฯ

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ นพ.จักรกริช โง้วศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ระหว่าง สธ. กรมพินิจฯ และ สปสช.


นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริมการปฏิบัติงานพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กและเยาวชนได้รับการดูแลสุขภาพและเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเสมอภาค ตามหลักสิทธิมนุษยชน ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจนปัญหาสุขภาพจิต ปัญหายาเสพติดและโรคทางจิตเวช


พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ รวม 98 แห่งทั่วประเทศ มีเด็กและเยาวชนในการดูแล 12,192 คน มีกรอบความร่วมมือ ได้แก่ 1.สนับสนุนและพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนบันทึกข้อตกลง และมีหน่วยงานอื่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตามเหมาะสม 2.สนับสนุนการดำเนินการตามพันธกิจของแต่ละฝ่าย เช่น สนับสนุนทางวิชาการ องค์ความรู้ และบุคลากร และ 3.ร่วมกันกำหนดแนวทาง รายละเอียดการดำเนินงาน กำกับ ติดตาม ประเมินผล


ด้าน นพ.จักรกริช กล่าวว่า สปสช. จะจัดให้มีระบบลงทะเบียนเพื่อเลือกหน่วยบริการประจำให้เด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ เพื่อให้เข้าถึงบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งบริหารการจัดสรรและจ่ายชดเชยค่าบริการในกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ให้แก่หน่วยบริการ หน่วยงาน หรือองค์กรที่มีสิทธิรับค่าใช้จ่ายกองทุนฯ ตลอดจนร่วมกับ สธ. และกรมพินิจฯ จัดทำข้อมูลสิทธิการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของเด็กและเยาวชนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และร่วมกันพัฒนาระบบประกันสุขภาพของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ ให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มที่ไร้สิทธิ หรือไม่สามารถตรวจสอบสิทธิหลักประกันฯได้ เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม


กำลังโหลดความคิดเห็น