รพ.ราชวิถี เตือน "เส้นเลือดสมองโป่งพองแตก" ทำเสียชีวิตสูงสุดในโรคหลอดเลือดสมอง อัตราตาย 20-30% ย้ำต้องรักษาฉุกเฉิน เปิดศูนย์รักษาผ่านสายสวน ช่วยเข้าถึงจุดหลอดเลือดโป่งพองง่าย แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรมีอายุขัยเพิ่มขึ้น ร่วมกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้พบอุบัติการณ์โรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น โดยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองแตก มีอัตราความพิการและเสียชีวิตสูงสุด คือ ร้อยละ 20 – 30 โดยอาการมีตั้งแต่ปวดศีรษะรุนแรง มองเห็นภาพซ้อน ปากเบี้ยว พูดลำบาก แขนขาอ่อนแรง ซึมสับสน โคมา ปัจจัยเสี่ยงคือโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่เป็นประจำ ภาวะอ้วน เป็นต้น ส่วนใหญ่ต้องรักษาที่ค่อนข้างเร่งด่วนฉุกเฉิน ในอดีตจะผ่าตัดเปิดเพื่อหนีบหลอดเลือดที่โป่งพอง แต่ในบางตำแหน่งของหลอดเลือด การผ่าตัดมีข้อจำกัดหรือมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดค่อนข้างสูง ยุ่งยากซับซ้อน ปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น คือ การรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดและใช้ขดลวดอุดหลอดเลือดสมองที่โป่งพอง มีบาดแผลเล็ก ฟื้นตัวไว เข้าถึงจุดหลอดเลือดโป่งพองได้ง่าย เป็นทางเลือกในการรักษาหรืออาจใช้ร่วมกับการผ่าตัด
นพ.สุจินต์ รุจิเมธาภาส นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ งานประสาทศัลยศาสตร์ กลุ่มงานศัลยศาสตร์ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ศูนย์การรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือด รพ.ราชวิถี ให้การรักษาโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดส่วนปลาย โดยการใส่สายสวนหลอดเลือด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น ลดความพิการและเสียชีวิต ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ การป้องกัน ทำได้โดยเลิกสูบบุหรี่ รักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ให้อยู่ในระดับควบคุมอาการได้ เมื่อมีอาการ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน