สปสช. เตรียมติดตามประเมินผล “ตู้จ่ายถุงยางอนามัย” หลังนำร่องติดตั้ง 3 เครื่อง 2 จุดในพัทยา เมื่อวาเลนไทน์ หากตอบรับดีจ่อขยายพื้นที่อื่น ด้าน “เอ็นจีโอ” แนะกลุ่มพนักงานบริการไม่ควรเผยตัวตน ชี้แจก ปชช. 10 ชิ้น/ครั้ง/สัปดาห์เหมาะสม
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการ “เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 'แจกยาคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย' ภายใต้กองทุนบัตรทอง ให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยเบื้องต้น 94,566,600 ชิ้น ในปี 2566 รวมถึงยาคุมกำเนิด และบริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ โดยถุงยางอนามัยที่ สปสช. เพิ่มบริการผ่านตู้จ่ายอัตโนมัติ เบื้องต้นติดตั้งบริการ 3 เครื่อง ใน 2 พื้นที่เมืองพัทยา คือ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย 2 เครื่อง และ รพ.เมืองพัทยา 1 เครื่อง
"หลังจากนี้ สปสช. จะติดตามและประเมินผลการให้บริการและรับบริการของประชาชนกลุ่มเป้าหมายผ่านตู้จ่ายถุงยางอัตโนมัติ หากได้รับการตอบรับที่ดี ก็จะมีการขยายติดตั้งตู้บริการเพิ่มเติมในพื้นที่และจังหวัดอื่นๆ ต่อไป" ทพ.อรรถพรกล่าว
นายจำรอง แพงหนองยาง รอง ผอ.มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (สวิง พัทยา) กล่าวว่า มองว่าช่วยให้เกิดการเข้าถึงที่ง่ายและสะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง การรับถุงยางอนามัยผ่านเครื่องจ่ายอัตโนมัติ แม้ภาพรวมจะมองว่าดี แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ประชาชนทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มพนักงานบริการอยากให้มีบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดที่ไม่ต้องมาแสดงบัตรประชาชน หรือเปิดเผยตัวตนวิธีใดๆ ก็ตาม เพราะแม้แต่การจ่ายถุงยางอนมัยผ่านตู้อัตโนมัติก็ยังต้องใช้บัตรประชาชนยืนยัน ที่เป็นการเปิดเผยตัวตนเช่นกัน ถือเป็นข้อจำกัด ส่วนการให้บริการถุงยางอนามัย 10 ชิ้นต่อครั้งต่อสัปดาห์นั้น หากเป็นค่าเฉลี่ยประชากรทั้งประเทศ มองว่าเหมาะสมแล้ว ส่วนจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่คงแล้วแต่มุมมอง แต่ส่วนตัวมองว่าเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ และทุกครั้งที่เราเห็นถุงยางก็ไม่ได้จะทำให้อยากมีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่การพกถุงยางเป็นการเตรียมความพร้อมและป้องกันมากกว่า
“เมื่อวานนี้ทั้งสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย สำนักงานชลบุรี, มูลนิธิซิสเตอร์ พัทยา, เครือข่ายสุขภาพและโอกาส Hon house พัทยา และสวิง พัทยา เอง ได้ร่วมการเปิดตัวและเห็นด้วยกับการจัดบริการเพื่อเพิ่มการเข้าถึงถุงยางอนามัย เพราะทำให้เข้าถึงได้ง่าย สะดวกมากขึ้น และอยากให้มีการกระจายติดตั้งไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการจัดบริการถุงยางอนามัยเฉพาะกลุ่มพนักงานบริการที่ไม่อยากแสดงตัวตน” นายจำรองกล่าว