นักวิชาการค้านขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึง ตี 4 ชี้ อุบัติเหตุจราจร ปี 64 มาจากดื่มแล้วขับกว่าร้อยละ 49.8 และส่วนใหญ่เกิดเหตุช่วงกลางคืน ฟันธงปัญหาสังคมเกินรับไหวแล้ว หวั่นมูลค่าความสูญเสียจากเหล้าที่มากกว่า 165,464 ล้านบาทต่อปี จะยิ่งขยายวงกว้าง ยกนอร์เวย์ขยายเวลาขายเพิ่ม 1 ชม. ปัญหาทำร้ายร่างกายเพิ่มร้อยละ 16 ด้านสมาคมเพื่อนเยาวชนใต้ วอนมุ่งสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวดีกว่าเพิ่มคนเมา
จากข่าวที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เตรียมขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากเดิม 02.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการเพิ่มพื้นที่โซนนิ่งที่เสนอให้ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ได้แก่ ถนนบางลาในภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย เมืองพัทยา และ 3 พื้นที่ในกรุงเทพฯ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย และซอยพัฒนพงษ์ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
รศ.ดร.นพ.พลเทพ วิจิตรคุณากร รอง ผอ.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า การขยายเวลาในการเปิดสถานบันเทิง ซึ่งต้องยอมรับว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกิจกรรมหลัก ย่อมทำให้เกิดปัญหาจากแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างประเทศที่เคยประสบปัญหาเช่นนี้ เช่น ประเทศออสเตรเลีย การขยายเวลาขายทำให้การดื่มแอลกอฮอล์และอุบัติเหตุรถชนเพิ่มมากขึ้น ประเทศไอซ์แลนด์ การเพิ่มเวลาขายทำให้มีอัตราการเข้าห้องฉุกเฉิน การบาดเจ็บ การทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย และการขับขี่ขณะมึนเมาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงในประเทศนอร์เวย์ การเพิ่มชั่วโมงขายแอลกอฮอล์ 1 ชั่วโมง ทำให้ปัญหาการทำร้ายร่างกายเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 16 สำหรับสถานการณ์ของประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2565 พบว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ประชากรไทยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับสูงถึงร้อยละ 49.8% โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน และเป็นที่แน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อสังคมจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมไปถึงการทะเลาะวิวาท และการทำร้ายร่างกาย ซึ่งสัมพันธ์กับมูลค่าความเสียหายที่รัฐต้องแบกรับภาระ จากการศึกษาต้นทุนทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทย พ.ศ. 2564 พบว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสูงถึง 165,454 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.02 ของ GDP ข้อมูลเหล่านี้เป็นความจริงที่ ครม.ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
“ตัวอย่างประเทศในทวีปยุโรปที่จำกัดเวลาขายแอลกอฮอล์ช่วงกลางคืน ได้แก่ ประเทศลัตเวีย และ ลิธัวเนีย ห้ามจำหน่ายฯ ตั้งแต่เวลา 22.00-08.00 น. ประเทศนอร์เวย์ ห้ามจำหน่ายฯ ในวันอาทิตย์ทั้งวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00-10.00 น. และวันเสาร์ เวลา 15.00-09.00 น. และประเทศไอร์แลนด์ ห้ามจำหน่ายในวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 22.00-10.30 น. และวันอาทิตย์เวลา 22.00-12.30 น.เป็นต้น ดังนั้น ครม. ควรพิจารณาชั่งน้ำหนักระหว่างเงินรายได้จากการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงกับต้นทุนทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ที่เกิดจากแอลกอฮอล์ “ได้ หรือ เสีย” ทั้งนี้ ประเทศไทยจึงไม่ควรขยายเวลาขายในสถานบันเทิง หากยังไม่มีมาตรการทางกฎหมาย หรือนโยบายและระบบเข้ามารองรับและเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น มาตรการการตั้งด่านตรวจลมหายใจแบบสุ่ม (RBT) มาตรการความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ/บริษัทแอลกอฮอล์ต่อผลกระทบและความสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ เช่น อุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทะเลาะวิวาท และคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น” รศ.ดร.นพ.พลเทพ กล่าว