xs
xsm
sm
md
lg

พี่น้องสองหมอจับมือสร้างมูตานคลินิกความงามให้เติบโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์หญิง ฉัตรษร ลิขิตอิศรา - แพทย์หญิง กุลชมาษร ลิขิตอิศรา สองพี่น้องคุณหมอความงามสาวสวยที่ร่วมกันสร้างธุรกิจความงามของตัวเอง หลังจากที่ที่ทั้งคู่ทำงานสะสมประสบการณ์จากสถาบันความงามมานานหลายปีเก็บเกี่ยวพัฒนาฝีมือมาสักพักใหญ่ก็ถึงเวลาที่จะต้องเติบโตมีธุรกิจเป็นของตัวเองจึงร่วมกันเปิดคลินิกความงามชื่อ ”มูตาน พาวิลเลี่ยนเวลเนส เซ็นเตอร์” (Mudan Pavilion wellness center) ด้วยเพราะว่าคุณหมอทั้งคู่จบแพทย์มาจากประเทศจีนจึงนำคำว่า “Mudan” มาเป็นชื่อคลินิกและโลโก้ซึ่ง “Mudan” แปลว่า ดอกโบตั๋น ด้วยรูปลักษณ์ของดอกโบตั๋นที่ผสมผสานความอ่อนหวานและสง่างาม อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิงวงกลมที่ซ้อนทับกันด้วยสีที่แตกต่างบนโลโก้ดอกโบตั๋น เมื่อรวมกันแล้วจะเกิดความสมดุลที่ลงตัวสร้างสรรค์ความงามที่เหมาะสมเฉพาะตัวบุคคล

แม้ธุรกิจความงามจะมีการแข่งขันสูงแต่ก็เป็นตลาดที่ใหญ่และเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องที่ผู้หญิงทุกวัยพร้อมที่จะจ่ายเพื่อดูและตัวเองให้สวยงามดูดีอยู่เสมอ และหากเป็นคลินิกที่มีคุณภาพ ราคาที่สมเหตุสมผลบริการที่ดี ก็มีพื้นที่อยู่ในตลาดนี้ได้ แม้จะเป็นน้องใหม่แต่ก็มั่นใจในศักยภาพด้านฝีมือที่สะสมมา ยาวนานและการบริการที่ประทับใจโดยเฉพาะด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

พญ.ฉัตรษร ลิขิตอิศรา หมอส้มผู้เป็นพี่สาว ประธานคณะผู้บริหาร Mudan Pavilion wellness center เป็นอาจารย์แพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ให้กับแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม จากประเทศสวีเดนและยังเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ความงามและ ปรับรูปหน้า กล่าวว่าจุดเด่นที่สำคัญของคลินิกนี้ก็คือทั้งสองคุณหมอประจำการเต็มเวลาที่นี่ บริหารและทำหัตถการด้วยตัวเองทุกเคส คุณหมอทั้งคู่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและศาสตร์ความงามด้านโหงวเฮ้งและยังเป็นอาจารย์แพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ให้กับบริษัทยา Restylane มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ได้เป็นอย่างดีถือว่าที่นี่เป็นคลินิกปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์โบท็อกซ์โดยไม่ ต้องพักฟื้นกลับบ้านได้เลยคนไข้ที่เข้ามาอันดับต้นๆ ก็มักมีปัญหาใต้ตาไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตา หรือถุงใต้ตาคุณหมอทั้งสองสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาในแบบต่างๆได้อย่างเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย สำหรับคนไข้ที่ไม่อยากผ่าตัดไม่มีเวลาพักฟื้นและต้องการไปพบปะผู้คนได้ทันที

“นอกจากดูแลความสวยจากภายนอกแล้วยังครอบคลุมความสวยจากภายในควบคู่ไปด้วยเพราะคุณหมอจบทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจากสหรัฐอเมริกา การให้วิตามินหรือการจัดวิตามินแบบส่วนตัวให้รองรับความต้องการที่แท้จริงของร่างกายและในอนาคตอันใกล้ก็จะมีวิตามินและครีมบำรุงผิวที่ผลิตภายใต้แบรนด์ของเราเองเพื่อให้ครบวงจรในการให้บริการแบบองค์รวม” คุณหมอส้มกล่าวด้วยความตั้งใจ

ทางด้าน พญ.กุลชมาษร ลิขิตอิศรา หรือ คุณหมอเกรซ ประธานคณะผู้บริหารและแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะร่วมกับศาสตร์การปรับความงามด้านโหวงเฮ้งกล่าวเพิ่มเติมว่ากลุ่มเป้าหมายของคลินิกคือกลุ่มสุภาพสตรีวัย 40-55ปีกลุ่มวัยทำงานที่กำลังมีการเติบโตหรือผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจเป็นคุณแม่ที่มีธุรกิจส่วนแรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ของคุณหมอที่ทำธุรกิจและก็รักสวยรักงามด้วยซึ่งคุณแม่ก็มีเพื่อนอยู่ในแวดวงธุรกิจและเป็นวงการแพทย์หลายสาขาทำให้สนใจอยากเรียนแพทย์และอยากมีธุรกิจด้านความงามเป็นของตัวเอง “ทำให้เราสองคนพี่น้องอยากเรียนหมอด้านความงามเพื่อจะได้มาดูแลคุณแม่และเพื่อนๆคุณแม่เพราะเราย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณแม่ของเราเราดูแลคุณแม่แบบไหนก็ดูแลคนไข้แบบเดียวกันคลินิกของเรามีความอบอุ่นดูแลเหมือนคนในครอบครัวมีความเป็นส่วนตัวเหมือนมาบ้านคนสนิทคุ้นเคย” คุณหมอเกรซกล่าวด้วยรอยยิ้ม

สาเหตุที่มาเลือกทำเลย่านศรีวรา ทาวอินทาวน์เพราะถือเป็นจุดกลางที่ไปสู่ถนนอีกหลายสายได้ง่ายทั้งลาดพร้าว รามคำแหง เรียบทางด่วนย่านทาวน์อินทาวน์เป็นย่านธุรกิจSME ที่กำลังเติบโตมีหมู่บ้าน เป็นย่านบีบวก เป็นจุดที่กำลังเติบโตได้อีกที่เลือกมาตั้งแบบสแตนอโลนเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วยจอดรถหน้าคลินิกเดินเข้าได้เลยถ้าไปอยู่ในห้างเดินออกมาไปที่จอดรถต้องผ่านผู้คนอาจไม่เหมาะ และเพื่อรองรับลูกค้าจากจีนที่กำลังจะเปิดประเทศ ย่านนี้ใกล้ห้วยขวาง-รัชดา คนจีนมาเยอะเราพูดจีนได้คนจีนชอบประเทศไทยอาหารไทยและคลินิกความงามที่ไทยการที่หมอพูดจีนได้ถือเป็นจุดเด่นของเรานอกจากมีบริการที่มาตรฐานมีคุณภาพแล้ว

สำหรับธุรกิจความงามแม้จะมีการแข่งขันที่สูงแต่ก็เป็นตลาดที่ใหญ่มากถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจความคุณสุภาพสตรีสูงยังมีการเติบโตปีล่ะไม่น้อยกว่า 20%มีมูลค่าตลาดรวม (ก่อนเกิดโควิด) สูงถึงปีละเกือบ40,000 ล้านบาทแม้ในช่วงโควิดจะซบเซาลงไปบ้างแต่ก็กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่โควิดเริ่มคลี่คลายลงแต่ก็มีการงัดกลยุทธ์ในเรื่องราคามาทำการตลาดกันอย่างเข้มข้น แต่คุณหมอทั้งสองมองว่าอย่างไรธุรกิจนี้ก็ยังไปรอดเพราะผู้หญิงไม่หยุดสวย ยอมอดข้าวแต่ไม่ยอมอดสวย “แต่ทางคลินิกของเราก็จะไม่ทำตลาดแบบตัดราคา ลด แลก แจก แถม เพราะเราให้บริการที่มีมาตรฐานราคามาพร้อมกับคุณภาพที่เหมาะสมและใช้ของพรีเมี่ยมจากฝั่งยุโรปมีการตั้งราคาแบบสมเหตุสมผล น่าเชื่อถือ จับกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยน่าเชื่อถือความเชี่ยวชาญของคุณหมอมากกว่าราคาเราจึงเลือกกลุ่มลูกค้าตลาดบีบวกขึ้นไป”

สำหรับแผนการบริหารงานในอนาคตที่มองไว้ภายใน 5 ปีนี้ก็คงเป็นเรื่องของการขยายสาขาอีก 2-3 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจความงามที่มีอัตราการเติบโตทุกปี และตั้งเป้าไว้ว่าจะไปเปิดสาขาที่ประเทศจีน “การทำธุรกิจต้องมีเป้าหมายก็วางแผนไว้เมื่อพร้อมก็ทำทันทีแม้ว่าจะมีบทเรียนจากสถานการณ์โควิดก็สอนให้บริหารงานอย่างไม่ประมาทต้องรอบคอบแต่ธุรกิจก็ต้องดำเนินต่อไป” คุณหมอเกรซ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.mudanpavilion.com/






หมอส้ม-พญ.ฉัตรษร ลิขิตอิศรา จบการศึกษาจากแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ Tongji Medical College จากประเทศจีน และยังศึกษาต่อด้านการฝังเข็มจากสถาบันShanghai University of Traditional Chinese Medicine ของจีน หลังจากนั้น ได้ศึกษาต่อทางด้านเวชศาสตร์ความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัยและได้รับวุฒิบัตร American Board of Anti-Aging and Regenerative (ABAARM)จากชิคาโก สหรัฐอเมริกา


หมอเกรซ-พญ.กุลชมาษร ลิขิตอิศรา จบการศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ที่ Tongji Medical College at Huazhong University of Science and Technology จากประเทศจีน และศึกษาต่อด้านการฝังเข็มจากสถาบันShanghai University of Traditional Chinese Medicine ของจีน หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อด้านหลักสูตร Advanceดูโหวงเฮ้ง “หมอดูดูอย่างไร”จากสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น