สปสช.เพิ่ม Telemedicine ดูแลผู้ป่วยนอกบัตรทองระดับปฐมภูมิ รอบคลุม 42 กลุ่มโรคทั่วไป ผ่าน 4 แอปฯ สุขภาพ พร้อมส่งยาถึงบ้าน นำร่องพื้นที่ กทม.เร็วๆ นี้ ย้ำบริการต้องได้มาตรฐานตามประกาศ สธ.
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า บอร์ด สปสช.เห็นชอบบรรจุ “บริการแพทย์ทางไกล” เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพฯ หรือบัตรทอง โดยช่วงโควิดระบาดปีที่ผ่านมา สปสช.ยังได้จับมือกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสุขภาพดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เพื่อช่วยลดความแออัดผู้ป่วยรับบริการที่ รพ. ถือว่าประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2566 สปสช. ขยายการให้ “บริการการแพทย์ทางไกลในลักษณะผู้ป่วยนอกทั่วไป” (OP Telemedicine) ครอบคลุมรักษา 42 กลุ่มโรคและอาการ โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสุขภาพดิจิทัล 4 แห่ง ได้แก่
1.Good Doctor Technology (กู๊ด ด็อกเตอร์) โดยจีดีทีคลินิกเวชกรรม 2.Clicknic (คลิกนิก) โดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม 3.Mordee (หมอดี) โดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม และ 4.Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม เพื่อดูแลสิทธิบัตรทอง เบื้องต้นนำร่องบริการผู้ป่วยโรคทั่วไปเฉพาะในพื้นที่ กทม.
“ผู้ร่วมให้บริการจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (ส.พ.7) ที่ระบุ “มีการบริการการแพทย์ทางไกล” และต้องมีมาตรฐาน ให้บริการได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลโดยใช้ระบบบริการการแพทย์ทางไกล พ.ศ.2564 มีระบบพิสูจน์ตัวตนยืนยันการใช้สิทธิก่อนรับบริการ มีแพทย์พร้อมให้บริการ และมีระยะเวลาให้บริการ 10 -15 นาทีต่อครั้ง หรือจนกว่าแพทย์จะวินิจฉัยและสั่งการรักษาได้" นพ.จเด็จกล่าว
นพ.จเด็จกล่าวว่า นอกจากนี้ ผู้ให้บริการต้องมีร้านยาเครือข่ายที่จัดส่งยาพร้อมให้คำแนะนำและติดตามการใช้ยากับผู้ป่วยได้ตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม โดยส่งยาถึงผู้ป่วยภายใน 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับบริการ มีการจัดระบบ AMED Telehealth ของ สวทช.เพื่อบันทึกข้อมูลการให้บริการและข้อมูลใช้ในการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการจาก สปสช. คาดว่า ระบบจะมีความพร้อมและให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ ถือเป็นบริการระดับปฐมภูมิที่มาเสริมระบบสุขภาพหลัก ช่วยเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มความสะดวก ลดความแออัดใน รพ. เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของบริการ
อนึ่ง บริการแพทย์ทางไกลครอบคลุม 42 กลุ่มโรคและอาการ ดังนี้ 1.ข้อเสื่อมหลายข้อ 2.ตาแดงจากไวรัส 3.ตาแดงจากไวรัส ที่มิได้มีรหัสระบุรายละเอียด 4.ข้อเสื่อมโดยทั่วไปปฐมภูมิ 5.เนื้อเยื่ออักเสบ 6.วิงเวียน มึน 7.ปวดศีรษะ 8.อาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรียอื่น 9.อาการท้องร่วง 10.กระเพาะและลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ
11.ไข้ไม่ทราบสาเหตุ 12.ความผิดปกติของระบบการทรงตัวของหู 13.โรคตากุ้งยิงและตุ่มอักเสบเรื้อรังที่หนังตา 14.การอักเสบของเยื่อบุตา 15.การติดเชื้อไวรัส ที่มิได้ระบุรายละเอียด 16.กล้ามเนื้อเคล็ด 17.ติดเชื้อไวรัสไม่ระบุตำแหน่งที่เป็น 18.ข้ออักเสบข้อเดียว ที่มิได้มีระบุรายละเอียด 19.เยื่อบุจมูกและลำคออักเสบเฉียบพลัน(หวัดธรรมดา) 20.ไข้ ไม่ระบุชนิด
21.เวียนศีรษะบ้านหมุนเฉียบพลัน แบบไม่รุนแรง 22.ปวดท้องช่วงบน 23.การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลันหลายแห่งพร้อมกัน 24.ลมพิษ 25.ปวดท้อง และปวดอุ้งเชิงกราน 26.เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด 27.ลมพิษ ที่มิได้ระบุรายละเอียด 28.ปวดหลังส่วนล่าง 29.คออักเสบเฉียบพลัน 30.ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน
31.คออักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด 32.การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลัน 33.กระเพาะอาหารอักเสบ ที่มิได้ระบุรายละเอียด 34.อาการปวดท้องอื่นๆ และอาการปวดท้องที่ไม่ระบุ 35.ข้ออักเสบหลายข้อ ที่มิได้ระบุรายละเอียด 36.ต่อมทอลซิลอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด 37.เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้ ที่มิได้ระบุรายละเอียด ปวดกล้ามเนื้อ 38.เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้หรือการเปลี่ยนอากาศ 39.ข้ออักเสบแบบอื่น 40.ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 41.ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด และ 42.การติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย