บอร์ด สปสช. เห็นชอบ “ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์” เป็นหน่วยบริการอื่นของบัตรทอง หลังกำหนด “สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600” เป็นสิทธิประโยชน์ ช่วยให้จ่ายชดเชยได้ เริ่มปีงบประมาณ 66 ตั้งเป้าช่วย 2.1 หมื่นคนต่อปี
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบประกาศกำหนดให้ “ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ” (ศบช.) เป็นสถานบริการอื่นตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เริ่มให้บริการปีงบประมาณ 2566 เนื่องจากมีผลการศึกษาจาก HITAP พบว่า ทำให้คนเลิกบุหรี่สำเร็จกว่า 17% ของผู้มารับบริการ มีความคุ้มค่า ประหยัดต้นทุนทางสังคมได้ตั้งแต่ 525–10,333 บาทต่อผู้สูบหนึ่งราย เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 จึงกำหนดบริการสายด่วนเลิกบุหรี่เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพฯ และให้จ่ายชดเชยบริการได้หลังจากที่ ศบช.ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ศบช. อยู่ภายใต้การดูแลโดยมูลนิธิสร้างสุขไทย จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิกับกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2551 เริ่มให้บริการคำปรึกษาทางโทรศัพท์ สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 มาตั้งแต่ปี 2552 รับสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. ที่ผ่านมาได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการให้บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์ โดยกรมควบคุมโรค บุคลากรมีคุณสมบัติตามตามแนวปฏิบัติการบริการของสถานบริการสาธารณสุขอื่นตามที่ บอร์ด สปสช.กำหนด คือ ผ่านการอบรมณ์หลักสูตรของศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์ มีเจ้าหน้าที่ที่มีวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ทำหน้าที่คัดกรองเบื้องต้น และสร้างแรงจูงใจเข้ารับบำบัด
“บริการสายด่วนเลิกบุหรี่ ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับคนไทยทุกคน จะเริ่มในปีงบประมาณ 2566 ตั้งเป้าหมายผู้รับบริการเบื้องต้นที่ 21,400 คนต่อปี โดยทุกรายต้องแสดงเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อพิสูจน์ตัวตน สปสช. จะกำกับติดตามผลงานการให้บริการร่วมกับกรมควบคุมโรค เพื่อประเมินการดำเนินงานต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว