ปลัด สธ.สั่งตั้งทีมสอบหักค่าเสี่ยงภัย "โควิด" นพ.สสจ.ศรีสะเกษแจงปมเบิกเงินสด

ปลัด สธ.สั่ง สสจ.ศรีสะเกษตรวจสอบ ปมไลน์หลุดหักค่าเสี่ยงภัย "โควิด" ย้ำรับฟังทุกด้าน ขอให้พูดความจริงโดยไม่ต้องกลัว ขอเวลาคณะทำงานตรวจสอบก่อน ด้าน นพ.สสจ.ศรีสะเกษเผยค่าเสี่ยงภัย 1 เดือนจ่ายแล้วทั้งหมด ไม่มีการหัก ส่วนเบิกเงินสดสมทบทำ OD แค่พูดคุยตกลงกัน ยังไม่ได้ดำเนินการ มีคนไม่เห็นด้วยจึงยกเลิก

จากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สั่งให้ดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติการเบิกค่าเสี่ยงภัยโควิด 19 ของ รพ.แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (อีสานใต้) ที่ให้มีการเบิกเงินสดแล้วหักเงินไปทำ OD

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ตนรับทราบความกังวลจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว ตนได้สั่งการเบื้องต้นไปยัง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. ในการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จเรื่องนี้ จึงขอเวลาให้ทางคณะทำงานได้ตรวจสอบ โดยต้องฟังความจากทุกด้าน หากบุคลากรคนใดที่มีข้อมูลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้พูดความจริงโดยไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลอะไร ยืนยันว่าถ้าให้ข้อมูลตามความเป็นจริงจะไม่เกิดปัญหาอะไร

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลจากข่าวเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เบื้องต้นได้ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ศรีสะเกษ ประชุมหารือข้อเท็จจริง ตั้งทีมมาตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอให้เวลาในการดำเนินการก่อน อย่างไรก็ตาม ตามที่ รมว.สธ.ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้มีระบบในการดำเนินงาน มีการตรวจสอบ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบราชการ หากมีมูลก็จะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน ขอเวลาให้ทาง สสจ.ศรีสะเกษ ตรวจสอบก่อน จะมีการแจ้งให้ทราบ ไม่ต้องกังวล

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะส่อไปในทางทุจริตได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ทางนพ.สสจ.ตรวจสอบก่อน

ขณะที่ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้มีการติดตามสอบถามข้อมูลเบื้องต้นแล้ว มีค่าเสี่ยงภัยอยู่ 1 เดือน ไม่ได้มีการหัก เขามีการจ่ายตามจริงสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานที่ รพ.สนาม ในศูนย์กักทั้งหลายประมาณ 40-50 คน มูลค่าเกือบ 6 แสนบาท ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการจ่ายแล้วไม่ได้มีการหักแม้แต่บาทเดียว ตามระเบียบจะไม่มีการหักเงินค่าเสี่ยงภัย จะต้องจ่ายตามฎีกาที่ขอเบิก เป็นชื่อใครก็จ่ายคนนั้น

ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการให้เบิกเงินสดเข้าไปสบทบสำหรับการทำ OD หรือ กิจกรรมโครงการพัฒนาบุคลากร นั้นได้รับทราบว่าเป็นการพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ความจริงเป็นเจตนาดีว่าไม่อยากใช้งบราชการใดๆ เลยมีการคุยกันว่า จะมีเงินมาสบทบเรี่ยไรกันหรือไม่ เป็นการตกลงกันมากกว่า แต่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เมื่อมีคนไม่เห็นด้วยก็ยกเลิกไปทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการ ผอ.รพ. ผู้บริหาร และคณะกรรมการบริหาร รพ. ได้ทำการชี้แจงให้บุคลากรได้เข้าใจ ชี้แจงให้ดีว่าไม่เกี่ยวกับเงินเสี่ยงภัย ไม่ควรเข้าใจกันไปในทางที่ไม่ถูกต้อง